จีน

ปักกิ่ง – สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา นายแจ๊ก หม่า ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา กลุ่มบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่สุดของจีน แถลงยืนยันว่าตนเองจะยังไม่วางมือจากอำนาจบริหารสูงสุดในอาณาจักรธุรกิจอาลีบาบาตามที่มีกระแสข่าวออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่า แจ๊ก หม่า หนึ่งในมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในจีนผู้นี้จะประกาศวางมือจากธุรกิจในวันที่ 10 กันยายน ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิด 54 ปีของเขาเพื่อจะใช้ช่วงเวลาที่เหลือในการทำงานการกุศลที่มุ่งเน้นด้านการศึกษา

โดยในแถลงการณ์นายหม่าระบุว่า ตนจะยังคงเป็นประธานบริหารของบริษัทอาลีบาบาต่อไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน ปี ค.ศ.2019 เพื่อให้การเปลี่ยนถ่ายอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่นก่อนจะส่งไม้ต่อให้นายแดเนียล จาง ซีอีโอของอาลีบาบาให้มารับช่วงตำแหน่งดังกล่าวต่อไป อย่างไรก็ดี ตนเองจะยังคงนั่งอยู่ในคณะกรรมการบริหารของอาลีบาบาไปจนถึงการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีในปี 2020

ทั้งนี้ แจ๊ก หม่า ก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโออาลีบาบาเมื่อปี 2013 แต่ยังคงเป็นบุคคลผู้ที่มีความสำคัญต่อบริษัทเช่นเดียวกับชื่อเสียงในฐานะบุคคลสาธารณะที่มีมากขึ้น ในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กทีวีเมื่อเร็วๆ นี้ นายหม่ายังเปิดเผยถึงความปรารถนาที่จะเดินตามรอยบิลล์ เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ที่วางมือจากอาณาจักรธุรกิจของตนแล้วไปทำงานด้านการกุศล

กัมพูชา

พนมเปญ – รายงานข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์สแจ้งว่า นายเข็ม โสกา อดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) พรรคฝ่ายค้านที่ถูกศาลกัมพูชาสั่งยุบพรรคไปแล้ว ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวออกไปแล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายน หลังจากนายเข็มถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำใกล้ชายแดนเวียดนามมานานกว่า 1 ปีในข้อหากบฏ โดยการอนุญาตให้ประกันตัวมีขึ้นภายใต้เงื่อนไขว่าจะไม่หนีคดี ซึ่งภายหลังนางเข็ม มโนวิทยา ลูกสาวของนายเข็มเปิดเผยว่า บิดาได้รับการประกันตัวภายใต้เงื่อนไขที่จะถูกกักบริเวณอยู่ในบ้าน หลังมีข่าวได้รับการปล่อยตัว ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตหัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พีจำนวนมากมารวมตัวกันรอพบอยู่หน้าบ้านพักในกรุงพนมเปญ แต่ทนายความของนายเข็มออกมาแจ้งว่าเจ้าตัวไม่สามารถออกมาพบปะกับกลุ่มผู้สนับสนุนได้ภายใต้สถานการณ์ในขณะนี้

ทั้งนี้ นายเข็มอดีตหัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พี ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านเสาหลัก ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหากบฏจากการถูกกล่าวหาว่าสมคบกับต่างชาติในความพยายามล้มรัฐบาลและต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 30 ปี ซึ่งการจับกุมนายเข็มและการปราบปรามสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ตลอดจนนักเคลื่อนไหวของรัฐบาลสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ได้จุดเสียงก่นประณามอย่างหนักจากชาติตะวันตก

สหรัฐอเมริกา

วอชิงตัน – สำนักข่าวเอเอฟพีและเอพีรายงานว่า การพยายามจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเดินหน้าสู่การปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลียังคงเดินหน้าต่อไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กันยายน โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้รับจดหมายที่ “อบอุ่นมากและเป็นไปในเชิงบวกมาก” จากนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ขอให้มีการพบปะหารือกันเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ผู้นำทั้งสองชาติได้พบปะสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์กันเป็นครั้งแรกไปแล้วที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยทำเนียบขาวระบุว่ากำลังพิจารณากำหนดการในการพบปะกันครั้งต่อไปนี้อยู่

ด้านประธานาธิบดีมุน แจ อิน ของเกาหลีใต้ ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐ-เกาหลีเหนือขึ้นที่สิงคโปร์ กล่าวให้คำมั่นว่าตนเองจะยังคงบทบาทในฐานะเป็นตัวกลางในการสนับสนุนการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และผู้นำคิมต่อไป พร้อมกับชี้ว่าการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์เป็นประเด็นสำคัญที่ควรเป็นรากฐานในการแก้ปัญหาระหว่างสองชาติคือสหรัฐและเกาหลีเหนือโดยผ่านการเจรจา

ขณะที่ยังมีสัญญาณอันดีอีกประการจากเกาหลีเหนือที่ในการฉลองวาระครบ 70 ปีการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือไม่ได้นำขีปนาวุธนิวเคลียร์ร่วมแสดงในการเดินสวนสนามด้วยแต่อย่างใด ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ทวีตชมท่าทีอันดีของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ด้วย