การมอบตำแหน่ง คือ “ใบเสร็จ” รัฐประหาร 2557 จาก พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

การเดินเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อรับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐ มนตรีฝ่ายการเมืองของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ก็อีหรอบเดียวกับการเดินเข้าทำเนียบของ นายสกลธี ภัททิยกุล

เพียงแต่คนหลังเป็นรองผู้ว่าฯกทม.

รูปธรรมนี้ไม่เพียงแต่ยืนยัน 1 พลังดูดอันมาจากทำเนียบรัฐบาล หากแต่ 1 ยังสะท้อนให้เห็นสายสัมพันธ์ระหว่างคสช. รัฐบาล และกปปส.

อย่าได้แปลกใจหากจะมีคำถาม

ก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้ง นายสกลธี ภัททิยกุล จากนี้จะแต่งตั้งคนอื่นๆใน 4 แกนนำกปปส.ได้แก่ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และ นายชุมพล จุลใส มาร่วมงานหรือไม่

เพราะนั่นคือความรับรู้และความเข้าใจของ “สังคม”

 กรณีของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ นายสกลธี ภัททิยกุล จึงมิได้จำกัดเพียงแต่ “ตำแหน่ง”ที่ได้รับ

หากแต่อยู่ที่สายสัมพันธ์ก่อน “รัฐประหาร”

ที่มีคำถามจากคสช.และรัฐบาลดังขึ้นอยู่เนืองๆแสดงความกังวลในเรื่องความปั่นป่วน วุ่นวายจากความขัดแย้ง แตกแยกทาง การเมือง

ก็ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ความขัดแย้ง แตกแยกทางการเมืองในห้วงก่อน “รัฐประหาร” มิได้เป็นไปอย่าง “ธรรมชาติ”

ตรงกันข้าม มีความจงใจ “ทำ” ให้เกิดขึ้น

เป็นสถานการณ์อย่างเดียวกับที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคยทำก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

เพียงแต่ครั้งหลังนี้เป็น “กปปส.”

และระยะหลังบรรดาแกนนำกปปส.หากไม่อยู่ที่พรรคประชา ธิปัตย์ ก็ได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลจากรัฐบาล ดังในกรณี นาย สกลธี ภัททิยกุล และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

และบางส่วนก็ไปอยู่ที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย

การมอบตำแหน่งทางการเมืองให้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และ นายสกลธี ภัททิยกุล คือ ใบเสร็จ

โดยเฉพาะต่อ “รัฐประหาร” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

แท้จริงแล้ว มิได้เกิดขึ้นตามความจำเป็นหรือตามธรรมชาติ หากแต่เป็นการเกิดขึ้นอย่างมีการวางแผน ตระเตรียมโดยการปูทางและสร้างเงื่อนไขของ”กปปส.”

เป็นไปตามกระบวนการ “สมคบคิด”ในทางการเมือง