คะแนนนิยม ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ แม้แต่ “ริพเล่ย์” ก็ยังงุนงง สงกา

ไม่ว่านิด้าโพล ไม่ว่าซูปเปอร์โพล ไม่ว่าสวนดุสิตโพล การปรากฏชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะตัวเลือก “นายกรัฐมนตรี”

มิได้เป็นเรื่องแปลก

เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์มาตั้งแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ทั้งเด่นชัดว่าอยากเป็น “นายกรัฐมนตรี” ต่อ

เพราะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดำรงสถานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร 2549 และก่อนรัฐประหาร 2557

เรื่องแปลกอยู่ตรงที่ยังมีชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร ยังมีชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ต่างหาก

สภาพตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา สภาพของ นายทักษิณ ชินวัตร ถือได้ว่าหนักหนาสาหัสอย่างยิ่ง

หนักหนากระทั่งยศ “พ.ต.ท.” ก็ถูก “ถอด”

ไม่ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่ามวลมหาประชาชน

ปลายหอกล้วนพุ่งเข้าใส่ยอดอก นายทักษิณ ชินวัตร

หลังการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็กลายเป็นอีกเป้าหนึ่งซึ่งปรปักษ์ทางการเมืองกระหน่ำเข้าใส่ด้วยฉายาต่างๆ นานา

ยิ่งเมื่อเกิดรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 การรุกไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งรุนแรงร้ายกาจ

“ถอดถอน” แล้วถอดถอนอีก

กระทั่ง ในที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีชะตากรรมเช่นเดียวกับ นายทักษิณ ชินวัตร

กระนั้น นายทักษิณ ชินวัตร ยังมีคะแนนถึงร้อยละ 13.50

คะแนนนิยมที่น่ากลัวยิ่งกว่า “โพล” ทุกสำนักก็คือความเชื่อที่ว่า หากเลือกตั้งเมื่อใด พรรคเพื่อไทยอันได้ชื่อว่าเป็นพรรค “ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ” ก็จะได้ชัยชนะ

เหนือต่อไม่ว่าพรรคของ คสช.หรือ พรรคประชาธิปัตย์

ที่โรดแมปการเลือกตั้งต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ไม่ยอมมีการปลดล็อกก็มาจากความหวาดกลัวว่าจะจะแพ้อีกนั่นเอง

ความเชื่อเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้ ได้อย่างไร

เพราะแม้แต่ “นายริพเล่ย์” ก็ยังต้องถาม บีลีฟ อิท ออร์ น้อต