‘บิ๊กตู่’ ชวนเด็กเลือกตั้ง ลั่น สร้างก้าวแรกประชาธิปไตย ขจัด ‘ขรก. ทหาร ตำรวจ’ ชั่ว

เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้โอวาทเยาวชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในโครงการ “เยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน” รุ่นที่ 6 พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้วยกลไกประชาธิปไตย รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย เราก็ทำไม่ได้ และประชาธิปไตยไม่ได้ทำเพื่อคนส่วนใหญ่เพียงอย่างเดียว ต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตย อาจเป็นมติคนส่วนใหญ่ แต่ทุกรัฐบาลจะต้องดูแลเสียงส่วนน้อยด้วย แม้เขาจะไม่ได้เลือกเรามา ทุกรัฐบาลต้องเป็นอย่างนี้ รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เราต้องดูแลคนทั้งประเทศ ไทยมีประชาธิปไตยคล้ายตะวันตก แต่อย่าลืมพื้นฐานและประวัติศาสตร์ของเรา เพราะอาจจะไม่เหมือนประเทศอื่น อย่ามองแค่ความสำเร็จของประเทศอื่น โดยที่เรายังไปไม่ถึง แต่กลับอยากเป็นเหมือนประเทศอื่น มันเป็นไปไม่ได้ เราต้องเริ่มก้าวแรกให้ถูกก่อน เพื่อจะเดินด้วยความมั่นคง มีวิสัยทัศน์ มีคุณธรรมจริยธรรม เราจะรู้จักเสียสละ มีจิตอาสา เพราะเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นก่อนในประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเลือกตั้ง อบต. อบจ.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเป็นคนที่มีคุณธรรม มีประสิทธิภาพ ความรู้ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในการจัดสรรงบประมาณ และการพัฒนาต้องเลือกคนแบบนี้มาทำงาน ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ แต่ตนไม่ได้ตำหนิใคร ทั้งนี้ ตนระวังกฎหมายทุกข้อ ทำอะไรต้องไม่ละเมิดกฎหมาย และไม่ใช่มาแบบนี้แล้วไม่ถูกตรวจสอบ เพราะต้องรับผิดชอบในฐานะหัวหน้ารัฐบาล อะไรที่ผิดถูกตนต้องร่วมรับผิดชอบทั้งสิ้น อย่าสร้างความเข้าใจว่านายกฯอยู่อย่างไร้การตรวจสอบ หรือเป็นการตรวจสอบที่ไม่จริงจัง ยืนยันว่าโดนทุกอัน แต่เรามีหลักการ เริ่มด้วยสิ่งที่ถูกต้องและมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้หวังให้ประเทศถอยหลัง การที่เข้ามาวันนี้เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า มีเวลาอยู่แค่ช่วงนี้ วันหน้าเป็นประชาธิปไตย ต้องมีคนทำเรื่องนี้ต่อไปให้ได้ สุดแล้วแต่พวกเราว่าจะเลือกใคร หรือจะเลือกแบบเดิม จะเอาอย่างไรก็ไปคิดกันเอง เรื่องของท่าน

“หากกระบวนการยุติธรรมเราไม่ดี ประเทศไทยอยู่ถึงวันนี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม อาจจะมีบางส่วนที่ไม่ดีต้องขจัดออกไป ข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ถ้าไม่ดีต้องขจัดออกไป ซึ่งผมมีความมุ่งมั่นแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ประเทศต้นแบบฉบับประชาธิปไตยก็มีแบบนี้ ถ้าบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยเขาก็ใช้กฎหมาย ลองคิดให้ไกลออกไปอย่าคิดแค่ตัวเอง คิดแค่คนใกล้ชิดเจอปัญหาแบบนี้ต้องเลิก ต้องไม่มีกฎหมาย ต้องไม่มีเจ้าหน้าที่แบบนี้ก็เดือดร้อนหมด เพราะทุกคนมีความคิดแตกต่างกัน ดังนั้น ต้องทำความคิดทุกคนรวมกันให้ได้ แล้วหาทางปฏิบัติที่เหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์เปิดโอกาสให้เด็กๆ สอบถามข้อสงสัย โดยมีเด็กผู้หญิงจากนราธิวาสคนหนึ่งถามนายกฯว่า ทำงานเหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า ค่อนข้างเหนื่อยเหมือนกัน ตอนนี้มีคนห่วงใย หายทันที สิ่งที่ทำวันนี้ต้องการกำลังใจเท่านั้น ไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องการให้คนมารัก แต่ขอให้รักประเทศของท่าน รักครอบครับ รักพ่อแม่ รักแผ่นดินเกิดของท่าน แผ่นดินเกิดแผ่นดินตาย ในเมื่อท่านเกิดประเทศไทยแล้ว จะต้องตอบแทนอย่างไร หลายคนบอกว่าเราไม่รวย ไม่อะไรต่างๆ แต่อย่างน้อยเรามีที่ยืนเสรีที่เป็นประเทศของเรา ประเทศที่ไม่เคยเป็นของใคร ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่เราจะหาประโยชน์และคืนกลับไปได้อย่างไร นั่นคือแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ทางบ้านเรา ฉะนั้นเราต้องทำให้ได้

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ท้อแท้เหน็ดเหนื่อย นายกฯก็เพียงต้องทุ่มเท สร้างแรงศรัทธาของตัวเองขึ้นมาว่า สิ่งที่เราทำมันดีถูกต้อง ทบทวนตลอดเวลา ตรงนี้ต้องแก้ไขหรือไม่ หลังจากที่ฟังประชาชนมา ถ้ามันไม่ใช่ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง รัฐบาลเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่าทำแล้วต้องเกิดประโยชน์กับเรา เกิดประโยชน์กับนายกฯ หรือเกิดประโยชน์กับคนในรัฐบาล มันไม่ใช่ ประโยชน์ที่ทำในวันนี้ ใครจะมาบริหารบ้านเมืองก็ตาม จะต้องตกกับประชาชนและประเทศชาติ นั่นคือสิ่งที่ต้องตั้งไว้กับตัวเองเสมอมา ใครก็ตาม และวันหน้าก็เป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ส.ส. นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น ขอให้ลองดู เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ วันข้างหน้าจะออกมาอย่างไรอยู่ที่พวกเราทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯได้ถามเด็กๆ ที่เข้าพบว่า อายุเท่าไหร่กันแล้ว เด็กๆ ตอบว่า 17-18 ปี จากนั้น นายกฯกล่าวว่า ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง ใครอายุ 18 ไปเลือกตั้งทุกคน อะไรต่างๆ ขอให้คิดอย่างที่ลุงคิด เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราควรจะเลือกใคร เลือกอย่างไร ฉะนั้น รัฐบาลจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่เรา โทษใครไม่ได้ และจะโทษลุงอีกไม่ได้ ถ้าวันหน้ามันตีกันวุ่นวายอีกจะโทษลุงไม่ได้ เพราะลุงก็แก่แล้ว และได้ทำมาให้แล้ว เดี๋ยวค่อยว่ากันต่อไปตรงโน้น

“นายกฯไม่ใช่คนหรูหราแบบนั้น ไม่ใช่ เป็นคนกินอะไรง่ายๆ บางวันก็กินก๋วยเตี๋ยว ซื้อข้าวแกงกิน คนเดินดินธรรมดา ไม่ใช่ชนชั้นอะไรทั้งสิ้น ที่นายกฯคิดอะไรออก เพราะเป็นคนแบบพวกเรามาโดยตลอด ติดดินมาตลอด ไม่เคยไปหรูหราฟุ่มเฟือย ไม่เคยเดินห้างมา 10-20 ปีแล้ว 10 ปีแล้วที่เดินห้างไม่ได้ คือขี้เกียจเดิน เพราะโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นนายกฯยิ่งเดินห้างไม่ได้ เพราะ รปภ.ต้องไปด้วย ไปกันเยอะ เขาต้องดูแลตามหน้าที่ เขาคงไม่ทำร้ายนายกฯ หรอก เขาจะเล่นงาน รปภ.ของลุงนี่แหละ เดี๋ยวก็ตีกันอีก ขี้เกียจก็เลยไม่ได้ไปไหน ทำงานมาเจอพวกเราก็มีความสุขแล้ว วันนี้ 64 ปีแล้ว แก่ขึ้นทุกวัน บางทีมีเวลาออกกำลังกายน้อยเพราะเวลามีจำกัด ไม่อยากใช้เวลามาก การทำงานมีอยู่ ต้องทำงานตลอดเวลาจนถึงเวลานอน ต้องคิดและเขียนบันทึกเพื่อที่จะทำต่อ เพราะบางทีลืม ฉะนั้น สมองต้องตื่นเต้นตลอดเวลา พร้อมจะเดินไปข้างหน้า ไม่ให้เกิดความล้มเหลว ดูแลพี่น้องประชาชน เอาทุกปัญหามาไตร่ตรองใคร่ครวญ วันนี้ที่ทำงานไม่ได้มีแค่นายกฯ คนเดียว มีอีก 20 กระทรวง ข้าราชการหลายแสน ถ้ารวมทหารก็หลักล้าน ทหารก็ถือว่าเป็นราชการ ทหารบกมี 4 แสนนาย รวมทุกเหล่าทัพก็ 6 แสนนาย ขณะที่ประชาชนมี 70 ล้าน อำนาจอยู่ที่ท่านทั้งสิ้นในการเป็นประชาธิปไตย เลือกนายกฯ เลือก ส.ส. คนฟังนั่งนานก็เมื่อย นายกฯยืนพูดนานก็เหนื่อยก็เมื่อย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว