พท.แนะปลดล็อก ชี้ทำปชช.เสียโอกาสสะท้อนปัญหาทำนโยบายชาติ

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ให้การต้อนรับ นางชุมยา สวามินาถัน รองผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก และคณะทำงานเฉพาะกิจภายใต้สหประชาชาติ ที่ชื่นชมการทำงานด้านสาธารณสุข ระบุ โครงการบัตรทองของไทยใช้ได้จริง สร้างความยั่งยืนด้านสุขภาพแก่ประชาชนไทย ว่า เห็นพล.อ.ประยุทธ์ ไปนั่งยิ้มสวยต้อนรับ รองผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ไม่แน่ใจว่าทราบที่มาหลักคิดของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ทำให้คนไทยได้เข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาลหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดหัวใจ ไส้ติ่ง คลอดลูก ถ้าไม่มีโครงการนี้บางคนต้องเอาที่นาไปจำนองเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวจากการรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย แต่เมื่อมีโครงการที่ให้หลักประกัน ให้ความมั่นคงในชีวิต จึงเกิดความมั่นใจกล้าจับจ่ายใช้สอย เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือน พล.อ.ประยุทธ์ เคยสอนประชาชนหลายครั้งว่า อย่าเลือกพวกหน้าเก่า เลือกแบบเดิมประเทศก็จะเป็นแบบเดิม เลือกแบบเดิมทุกอย่างก็ตาย

นายอนุสรณ์กล่าวว่า จึงอยากให้ลองมองอย่างให้ความเป็นธรรม ให้เครดิตกันแบบสุภาพบุรุษ จะเห็นว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี จนองค์การอนามัยโลกนำไปเป็นต้นแบบในหลายประเทศ การเลือกตั้งครั้งหน้า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเตรียมดำเนินการคือการต่อยอดยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคแบบใหม่ ภายใต้ปรัชญา ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส อยากให้รัฐบาลคสช. รีบปลดล็อก เพื่อจะได้ไปสำรวจข้อมูลและเก็บตัวอย่างความพึงพอใจจาก แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางสาธารณสุข และประชาชน จะทำอย่างไรให้โครงการนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดีขึ้น และใช้งบประมาณของภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นการปลดล็อกพรรคการเมือง เพื่อให้สามารถไปรับฟังปัญหาของประชาชนได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการคำนึงถึงแต่ความมั่นคงของรัฐบาลคสช.เป็นหลัก แต่อาจทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสในการได้สะท้อนปัญหาและนำไปสู่การจัดทำนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไปหรือไม่