สหกรณ์ยางตรังโอดขาดทุนยับ 1.9 ล้าน จากราคาตกต่ำ วอนรัฐช่วยให้ได้ 60-70 บาท

วันที่ 30 สิงหาคม 2561 ที่สหกรณ์กองทุนสวนยางโพธิ์โทน จำกัด ต.นาวง อ.ห้วยยอด ซึ่งรับซื้อน้ำยางสดจากสมาชิกมาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควันและยางแผ่นรมควันอัดก้อน จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงรวมประมาณ 200 คน เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา และเพื่อพิจารณาอนุมัติแผนการดำเนินงานและงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 และเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดใหม่ และแต่งตั้งผู้ตรวจสอบกิจการของสหกรณ์ ทั้งนี้ พบว่าผลการดำเนินงานในปีบัญชีสหกรณ์วันที่ 31 มีนาคม 2561 สหกรณ์ประสบภาวะขาดทุนเป็นจำนวนเงิน1,876,634 บาท

นายบุญครองชีพ จันทร์หอม เลขานุการคณะกรรมการฯสหกรณ์กองทุนสวนยางโพธิ์โทน กล่าวว่า ปัญหาของสหกรณ์กองทุนสวนยางที่รับซื้อน้ำยางจากสมาชิกมาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน และยางแผ่นรมควันอัดก้อนทุกแห่งในปีนี้ กว่า 90% ประสบปัญหาขาดทุน สาเหตุเพราะราคายางตกต่ำ และราคาน้ำยางสดกับราคายางแผ่นรมควัน ณ ปัจจุบันมีราคาที่ใกล้เคียงกัน ห่างกันเพียงแค่ประมาณกก.ละ 3 บาทเท่านั้น ขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 6 บาท จึงทำให้สหกรณ์ขาดทุนประมาณ 3 บาทต่อกก. โดยน้ำยางสดเหลือกิโลกรัมละประมาณ 37 – 39 บาทเท่านั้น ขณะที่ราคายางแผ่นรมควันเหลือประมาณกิโลกรัมละ 42 – 43 บาท

“ทั้งนี้ ในส่วนของสหกรณ์กองทุนโพธิ์โทนปีบัญชีสหกรณ์ ขาดทุนไปประมาณ 1.9 ล้านบาท เพราะมียางเก็บไว้ประมาณ 8 ตัน หวังนำออกขายทำกำไร ในช่วงก่อนสิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูปิดกรีดและยางออกสู่ตลาดน้อย หวังว่าราคายางจะต้องดีขึ้น แต่ปีนี้ราคายางกลับลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้สหกรณ์ส่วนใหญ่ที่เก็บยางไว้ประสบภาวะขาดทุน เพราะขณะซื้อไว้ราคาประมาณกก.ละ 70 บาท แต่พอนำออกขายได้เพียงกก.ละ 50 บาท ทำให้ขาดทุนสะสมอยู่ที่ประมาณ กก.ละ 20 บาท ทั้งนี้ โดยภาพรวมทั้งจังหวัดมีสหกรณ์ประมาณ 38 แห่ง พบว่าแต่ละแห่งขาดทุนตั้งแต่ประมาณ 2 แสนบาท ไปจนถึงเกือบ 2 ล้าน โดยรวมสหกรณ์ทุกแห่งในจังหวัดตรังขาดทุนรวมไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของสหกรณ์ เพราะสามารถกู้เงินจากหน่วยงานต่างๆได้มาหมุนเวียนได้” นายบญครองชีพ กล่าว

ขณะที่นายสมศักดิ์ ไสเพี้ยะ ชาวสวนยาง ต.นาวง กล่าวว่า ราคายางที่ตกต่ำทำให้ชาวสวนยางพาราเดือดร้อนหนัก คนที่จะไม่เดือดร้อนมากนัก คือ คนที่มีอาชีพเสริมอื่นๆ ทั้งนี้ ยังประสบปัญหาจากฟ้าฝนที่ตกบ่อยด้วย ทำให้กรีดยางพาราไม่ได้ แต่ละวันรายได้ขาดหายไปมาก คนที่จะอยู่ได้จะต้องทำงานประเภทอื่นเสริมด้วย จึงจะสามารถเลี้ยงปากท้องครอบครัวได้ โดยในปีนี้สมาชิกสหกรณ์กองทุนโพธิ์โทน ทุกคนไม่ได้รับเงินปันผล เนื่องจากสหกรณ์ขาดทุน โดยปีที่แล้วตนเองยังได้รับเงินปันผลจำนวน 7,400บาท แต่ปีนี้ไม่ได้ และแนวโน้มราคาก็ยังลดต่ำลงต่อเนื่อง อยากขอให้รัฐบาลช่วยเหลือให้ได้ที่ กก.ละ 60 – 70 บาท