ม็อบเกษตรกรหนี้ท่วม บุกเรียกร้องแบงก์ช่วยลดเงินกู้50%

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม กลุ่มเกษตรกรประมาณ 300-400 คน ได้เดินทางมาร้องเรียนเรื่องปัญหาหนี้ บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ พหลโยธิน หลังจากได้เดินทางไปยื่นร้องเรียนกับกระทรวงการคลังมาก่อนหน้านี้

นายยศวัจน์ ชัยวัฒนสิริกุล ประธานกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เกษตรกรมีปัญหาหนี้สูงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและประสบภัยธรรมชาติ และไม่สามารถขอเงินกู้เพิ่มเสริมสภาพคล่อง และทำการเกษตรเพิ่มได้ เนื่องจากเกษตรกรไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม เพราะใช้ค้ำประกันเงินกู้เดิมไปแล้ว และธนาคารต้องการให้ชำระหนี้ก้อนเดิม ให้หมดก่อนให้เงินกู้ใหม่

“ที่ผ่านมามีการชำระหนี้มาโดยตลอดแต่เงินต้นไม่ลดลง เนื่องจากแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจะอยู่ที่ 5-7% แต่เมื่อเกษตรกรชำระหนี้ช้า ธนาคารมีการคิดค่าปรับ และค่าดอกเบี้ยล่าช้า ทำให้มียอดดอกเบี้ยเพิ่มเป็นถึง 29-34% ต่อปี โดยเกษตรกรมีหนี้หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลักล้านบาทต่อราย ซึ่งอยากให้ธนาคารให้ความช่วยเหลือโดยลดเงินกู้ให้กับเกษตรกร ” นายยศวัจน์ กล่าว

นายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า หนี้เกษตรกรที่อยู่กับธนาคารพาณิชย์ มียอดค้างอยู่ไม่ถึง 2,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับหนี้ที่อยู่กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส) และอยู่ที่สหกรณ์ต่างๆ ซึ่งสมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างการหารือกับธนาคารสมาชิก โดยมีธนาคารสมาชิก 7 แห่งที่มีหนี้เกี่ยวกับเกษตรกรว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างไรไม่ ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากการหารือและความคิดเห็นจากธนาคารสมาชิกก่อน

” ข้อเสนอของเกษตรกรต้องการให้มีการลดเงินกู้ให้แก่เกษตรกรที่มีหนี้มามากกว่า 2.5 ล้านบาท เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ที่สมาคมธนาคารไทยช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่มีหนี้ต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ด้วยการลดเงินกู้ให้ 50% อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่มีหนี้มากกว่า 2.5 ล้านบาท มีสัดส่วนน้อยไม่เกิน 200 ราย ปัจจุบันแต่ละธนาคารได้มีการเปิดให้เกษตรกรที่มีหนี้สูงกว่า 2.5 ล้านบาทเข้ามาเจรจาเป็นราย ๆ อยู่แล้ว “นายกอบศักดิ์ กล่าว