แกนนำตั้ง ‘จังหวัดบัวใหญ่’ อัดกลุ่มต้านใช้คำ ‘แยกแผ่นดิน’ ปลุกแตกแยก ขอขึ้นเวทีดีเบต

จากกรณีที่แกนนำกลุ่มสามมิตรพบปะรับฟังปัญหาจากประชาชนในเขตอำเภอบัวใหญ่ และอำเภอใกล้เคียง 7 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา โดยมีชาวบ้านกว่า 1,000 คน เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนายคำพันธ์ บุญยืด ตัวแทนกลุ่มประชาชนอำเภอบัวใหญ่ ได้เสนอให้กลุ่มสามมิตรติดตามทวงถามรัฐบาลในประเด็นขอแยกตัวออกจากจังหวัดนครราชสีมา ตั้งเป็น “จังหวัดบัวใหญ่” เพราะพื้นที่นี้ห่างจากตัวจังหวัดนครราชสีมามากกว่า 100 กิโลเมตร และนครราชสีมามีถึง 32 อำเภอ จัดสรรงบประมาณไม่ครอบคลุมทั่วถึง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยยื่นหนังสือต่อกระทรวงมหาดไทยและเคยเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 ประกาศตั้ง ”จังหวัดบัวใหญ่” ขึ้น

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2561 นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา กลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชนจังหวัดนครราชสีมาเดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องขอให้หยุดเคลื่อนไหวเสนอร่าง พ.ร.บ.การจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ห้องประชุมรักษ์บัวใหญ่ โรงเรียนบัวใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีการประชุมแกนนำขับเคลื่อนการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ขึ้น เพื่อเดินหน้าเคลื่อนไหวและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ 8 อำเภออย่างต่อเนื่อง

นายคำพันธ์ บุญยืด ตัวแทนแกนนำในการขอจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อมีการพูดถึงการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ครั้งใด ก็จะมีกลุ่มบุคคลกลุ่มเดิมเพียงไม่กี่คนผลัดเปลี่ยนกันมาเสนอเรื่องคัดค้าน ซึ่งบุคคลกลุ่มดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ 8 อำเภอแต่อย่างใด แต่กลับเป็นกลุ่มบุคคลซึ่งอยู่อาศัยในเขตอำเภอเมือง ซึ่งมีความเจริญพร้อม จึงอยากจะถามกลับกลุ่มต่อต้านว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นสมบัติส่วนรวมหรือเป็นสมบัติส่วนตัวของใครกันแน่ ทำไมจึงแยกออกมาตั้งจังหวัดใหม่ไม่ได้ ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่ของชาวบ้านใน 8 อำเภอเห็นตรงกันแล้วว่าอยากให้มีการแยกออกมาตั้งจังหวัด

“การใช้คำว่า ‘แยกแผ่นดิน’ ในการปลุกระดมคนออกมาต่อต้านนั้น ส่วนตัวเห็นว่าทางกลุ่มต่อต้านเองนั่นแหละเป็นตัวก่อความขัดแย้งขึ้นมาในสังคม ซึ่งเรื่องการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่นี้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายถูกต้อง มีการรวบรวมรายชื่อชาวบ้านกว่า 20,000 รายชื่อ เสนอให้ อบจ.นครราชสีมา พิจารณาผ่านจนไปถึงขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว ดังนั้นการดำเนินการของกลุ่มต่อต้านควรทำในขั้นตอนทางกฎหมายเช่นเดียวกัน ไม่ใช่แค่คนเพียง 4-5 คน ไปยื่นหนังสือคัดค้านโดยอ้างอิงเพียงเสียงในโลกออนไลน์เท่านั้น ส่วนประเด็นการขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ใช้ ม.44 เพื่อให้จัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ได้นั้น ก็เพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชนทั้ง 8 อำเภอ เป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ไม่ใช่การแตกแยกแต่อย่างใด และยินดีในการขึ้นเวทีดีเบตนำเสนอชี้แจงประเด็นปัญหาความเห็นต่างกรณีการแบ่งแยกจังหวัดบัวใหญ่ เพื่อหาทางออกให้แก่ผู้ที่มีความเห็นต่างทั้ง 2 กลุ่ม”

ส่วนประเด็นที่ว่ามีชาวโซเชียลกว่า 90% ไม่เห็นด้วยกับการแยกจังหวัดนั้น นายคำพันธ์กล่าวว่า มีบุคคลเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงโลกโซเชียลได้ ซึ่งมิใช่เสียงประชาชนส่วนใหญ่ โดยส่วนมากชาวบ้านใน 8 อำเภอจะเป็นชาวไร่ ชาวนา คนยากคนจน อาจจะเข้าถึงโลกโชเซียลไม่ได้ การที่จะยกเรื่องนี้มากล่าวอ้างอิงจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเท่าใดนัก ทำไมไม่ใช้ข้อมูลที่เป็นจริงซึ่งได้มีการสำรวจโดยหน่วยงานภาครัฐของจังหวัดนครราชสีมาเอง มีข้อมูลชัดเจนว่าทั้ง 8 อำเภอชาวบ้านส่วนใหญ่เห็นด้วย และประเด็นถ้ามีการแยกออกมาจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่แล้วจะไม่เป็นหลานย่าโมนั้น คิดว่าเป็นการกล่าวอ้างเพื่อสร้างกระแสในการปลุกระดมคนออกมาต่อต้านการตั้งจังหวัดเพื่อประโยชน์ส่วนตนเองมากกว่า เปรียบกับพ่อแม่เราไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนท่านก็ยังเป็นพ่อแม่เราอยู่ดี ส่วนย่าโมไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหนก็ยังจะเคารพระลึกถึงอยู่ตลอด ถึงแยกออกมาก็ยังเป็นหลานย่าโมเช่นเดิม ดังนั้นการที่จะพูดว่าการแยกไปตั้งจังหวัดบัวใหญ่เป็นการแยกแผนดินย่า หรือแยกไปแล้วไม่เป็นหลานย่าโมขอให้หยุดเสีย เนื่องจากย่าโมมิได้มีเพียงชาวนครราชสีมาเท่านั้นที่เคารพบูชา คนไทยทั้งประเทศแม้แต่ฝรั่งต่างชาติก็เคารพบูชาเช่นกัน