ใช้คืนสำเร็จ! กรีซหลุดพ้นหนี้ ‘ทรอยก้า’ 11ล้านล้านบาทได้แล้ว

สำนักข่าวเอเอฟพีและบีบีซีรายงานว่า หลังช่วงเวลาหลายปีของมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวด กรีซสามารถหลุดพ้นจากความช่วยเหลือทางการเงินครั้งที่ 3 และครั้งสุดท้ายได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม ทางการเตือนว่ายังมี “เส้นทางอีกยาวไกลที่ต้องเดินหน้าต่อไป”

กรีซต้องรับความช่วยเหลือเป็นเงินกู้จากทรอยก้า หรือคณะกรรมการ 3 ฝ่ายที่ประกอบไปด้วยสหภาพยุโรป (อียู) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) 3 ครั้งติดต่อกัน ในปีพ.ศ. 2553 ปี 2555 และปี 2558 เป็นจำนวนทั้งสิ้นรวมแล้วกว่า 289,000 ล้านยูโร (ราว 11 ล้านล้านบาท) ที่นับเป็นความช่วยเหลือที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเงินโลก

การปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่เจ้าหนี้ต้องการเป็นการแลกเปลี่ยนทำให้กรีซแทบยืนไม่อยู่ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกรีซหายไปถึง 1 ใน 4 ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการว่างงานพุ่งสูงถึง 27 เปอร์เซ็นต์ แต่กรีซสามารถกลับมาเติบโตได้แล้วในปัจจุบัน โดยสามารถพลิกจากการขาดดุลมหาศาลกลับมาจัดทำงบประมาณเกินดุลอย่างแข็งแกร่งได้สำเร็จ แต่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยังน้อยกว่าเมื่อช่วงเริ่มต้นวิกฤตอยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์

“เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2553 ที่กรีซสามารถยืนอยู่ได้ด้วยขาของตนเอง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ต้องขอบคุณความพยายามที่ไม่ธรรมดาของประชาชนชาวกรีก ที่ร่วมมือกับรัฐบาลกรีซชุดปัจจุบันเป็นอย่างดี และการสนับสนุนของพันธมิตรยุโรปผ่านทางเงินกู้และการผ่อนผันหนี้” นายมาริโอ เซนเทโน ประธานคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ของกองทุนกลไกการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) ระบุในแถลงการณ์

ด้านนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราส ของกรีซที่คาดว่าจะแถลงเรื่องการยุติรับความช่วยเหลือทางการเงินผ่านทางโทรทัศน์ในวันที่ 21 สิงหาคม กล่าวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาหลังลงนามในข้อตกลงกับรัฐมนตรียูโรโซนเพื่อยุติโครงการรับความช่วยเหลือทางการเงินว่า กรีซสามารถเริ่มต้นมุ่งไปสู่การเป็น “รัฐสวัสดิการ” ได้

อย่างไรก็ตาม นายยานนิส สตูร์นาราส ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์คาธีเมรินี เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า “กรีซยังมีเส้นทางอีกยาวไกลที่ต้องเดินหน้าต่อไป”

นายสตูร์นาราสเตือนว่า หากกรีซเดินถอยหลังในสิ่งที่เห็นพ้องไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในขณะนี้หรือในอนาคต จะไม่สามารถกู้ยืมเงินจากตลาดเพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ที่ครบกำหนดได้”

นอกจากนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซยังแสดงความกังวลด้วยว่า “หากมีความวุ่นวายอย่างร้ายแรงในตลาดเงินนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างอิตาลี ตุรกีหรือแห่งอื่นๆ ในโลก กรีซจะพบกับความยากลำบากในการระดมทุนจากตลาดการเงิน

ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซ ประเมินว่าการคลังของตนเองสามารถครอบคลุมงบประมาณได้จนถึงสิ้นปี 2565 เป็นการเปิดช่องว่างสำหรับแผนการที่จะกลับเข้ามายังตลาดเงินกู้ได้