ขอบคุณข้อมูลจาก | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักลงทุน ยอมรับว่าเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก ในช่วงเวลาที่เขาต้องรับมือกับรายงานข่าวว่าถูกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (เอสอีซี) สอบสวนจากแผนการที่เปิดเผยบนทวิตเตอร์ว่าจะนำบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลาออกจากตลาดหุ้น
“ปีที่ผ่านมานี้เป็นปีที่ยากลำบากและเจ็บปวดมากที่สุดในชีวิตการทำงานของผม” นายมัสก์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา “เป็นช่วงเวลาที่ยากเย็นแสนสาหัส”
นิวยอร์กไทม์สระบุว่า นายมัสก์ท่วมท้นไปด้วยอารมณ์หรือน้ำตาไหลจนพูดไม่ออกหลายครั้ง ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ในช่วงที่เขาพูดถึงการทำงานยาวนานหลายชั่วโมงแบบมาราธอนเพื่อพยายามผลิตรถยนต์ให้ได้ตามจำนวนก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตาย
นายมัสก์ ซึ่งก่อตั้งเทสลาขึ้นเมื่อปี 2003 เพื่อผลักดันรถยนต์ให้เข้าสู่เทคโนโลยียุคใหม่ กล่าวว่าเขามองว่า การทวีตข้อความเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่รวมถึงการรับประกันว่าหาแหล่งเงินทุนสนับสนุนสำหรับการนำบริษัทออกจากหลาดหุ้นได้แล้ว เป็นความพยายามที่จะสร้างความโปร่งใส
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของเทสลาในตลาดนิวยอร์กพุ่งสูงมากเกินไปจนต้องระงับการซื้อขาย เนื่องจากสร้างความตกตะลึงให้กับนักลงทุน นักวิเคราะห์ตลาด และแม้กระทั่งบอร์ดบริหารของเทสลาเองที่ไม่คาดคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกับการดึงดูดความสนใจของเอสอีซี
หุ้นของเทสลาร่วงลงในสัปดาห์นี้จากรายงานข่าวในฟ็อกซ์บิสซิเนสและนิวยอร์กไทม์สระบุว่า เอสอีซีออกหมายเรียกนายมัสก์เข้าให้การเกี่ยวกับทวีตดังกล่าว
ข่าวระบุว่า โดยปกติแล้วการประกาศเรื่องสำคัญ อย่างการจะนำบริษัทที่มีขนาดใหญ่ออกจากตลาดหุ้น จะต้องมีการอธิบายรายละเอียดต่อเอสอีซีก่อนที่จะมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ
นิวยอร์กไทม์สระบุว่า นายมัสก์และบอร์ดบริหารรายอื่นๆ ของเทสลาเตรียมที่จะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของเอสอีซีในสัปดาห์หน้า