เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. เปิดเผยกรณี นายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ ร้องเรียนต่อกองปราบฯ หลังถูกหลอกให้โอนเงินสกุลดิจิทัลมูลค่า 797 ล้านบาท ว่า วันนี้ (17 สิงหาคม) พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้ผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดในคดีโกงเงินบิทคอยน์มาสอบปากคำและแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายปริญญา จารวิจิต นายธนสิทธิ์ จารวิจิต น้องชายของนายปริญญา นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ดารานักแสดงหนุ่ม นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหุ้นเมืองไทย และนายชาคริส อาห์มัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอ็กเปย์ จำกัด โดยจะมีการนัดหมายให้มาสอบปากคำในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 10.00 น.

พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวว่า นายประสิทธิ์นั้นมีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดคือหลอกว่าจะขายหุ้นของบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด(มหาชน) เป็นจำนวน 500 ล้านหุ้น หุ้นล่ะ 50 สตางค์ ให้แก่นายเออาร์นี แต่สามารถจัดสรรค์หุ้นได้เพียงแค่ 345 ล้านหุ้นเท่านั้น โดยหลังจากนั้นนายประสิทธิ์เองก็มีการขอพูดคุยเจรจากับผู้เสียหายเองแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องออกหมายเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของบิดาและมารดาของพี่น้องตระกูลจารวิจิตที่พบว่านายปริญญามีการโอนเงินให้ 90 ล้านบาทนั้นคือนางเลิศฉัตรกมล จารวิจิต มารดา และนายสุวิทธิ์ จารวิจิต บิดา ที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ก็จะมีการเรียกมาสอบปากคำในวันที่ 27 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ซึ่งจะยังไม่มีการแจ้งข้อหาแต่อย่างใด เพราะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดก่อนและจะให้มาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนว่าเงินที่ได้รับมานั้นได้มาอย่างไร

พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 28 สิงหาคม ยังมีการออกหมายเรียกนายธรรมนัส พรหมเผ่าหรือ ”ผู้กองมนัส” อดีตนายทหารชื่อดัง มาสอบปากคำในกรณีที่มีการรับโอนหุ้นของนายปริญญาเอาไว้

โดยจากรายงานระบุว่าจากการตรวจสอบบัญชีผู้ถือหุ้น บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) นั้นพบพิรุธการถือครองหุ้นอยู่หลายส่วนด้วยกัน โดยส่วนสำคัญคือมีการถือหุ้นของอดีตนายทหารคนดังอยู่จำนวนมากในบริษัทแห่งนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังตรวจสอบเอกสารและจะออกหมายให้มาพบเพื่อซักถามและต้องตรวจสอบว่าหุ้นที่ได้รับมานั้นได้มาโดยชอบหรือไม่