ชะนัก ปัก สุเทพ เทือกสุบรรณ จาก แฟลต และโรงพัก ตำรวจ

ไม่ว่าการเดินหน้าในเรื่องการสร้างแฟลตตำรวจ 163 แห่ง และโรง พักทดแทน 396 แห่งต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ของ ป.ป.ช.จะมี เป้าหมาย
1 เดินหน้าตามกระบวนการ และหรือ 1 จบเกม
แต่เรื่องนี้มากด้วยความละเอียดอ่อน ไม่เพียงแต่ต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หากแต่ยังสะเทือนไปถึงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ในเรื่องคดีความอาจจำกัดเพียง แฟลตตำรวจ 163 แห่งและโรงพักทดแทน 396 แห่ง
แต่ในเรื่อง “การเมือง” “ประณีต” อย่างยิ่ง
เพราะสัมพันธ์ไปถึงเรื่องความจำเป็นต้องมีรักษาการผบ.ตร.แทนที่จะมี ผบ.ตร.อย่างถูกถ้วน

ในทางกฎหมาย เรื่องนี้นอกจากจะอยู่ในความรับผิดชอบของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ
หากแต่ยังพาดพิงไปถึงรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติตามนโยบาย
ทุกอย่างสัมพันธ์กับหลัก”ธรรมาภิบาล”
คำถามแรกก็คือ ทำไมจึงไม่สามารถคัดสรรและแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามกฎระเบียบที่วางเอาไว้
นี่ย่อมโยงไปถึงตัวบุคคลบางคนและสายโยงในทางการเมือง อันลึกซึ้ง
รวมถึงบทบาทของ”รัฐบาล”ในขณะนั้น
จึงเป็นภาพสะท้อนในกระบวนการบริหารจัดการของรัฐบาลอันเกี่ยวกับพรรคการเมืองบางพรรคโดยตรง และเมื่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองใหม่
กรณีแฟลตตำรวจและโรงพักทดแทนจึงถูก”ลาก”ติดหลังมา

มติของ ป.ป.ช.ประกาศขึ้นในห้วงยามที่พรรครวมพลังประชาชาติ ไทยกำลังระดมหาสมาชิกกันอย่างเอาการเอางานจากบรรดาคนดีคนดัง
ไม่ว่าจะเป็น ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล ไม่ว่าจะเป็น นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์
“คำถาม”จึงจะพุ่งตรงไปยังคนดี คนดังเหล่านี้
เป็น “คำถาม” อันเนื่องแต่บทบาท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ