วันนี้ (16 สิงหาคม) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวชี้แจง กรณีปปช.แจ้งข้อกล่าวหาปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน396 แห่ง และแฟลตตำรวจ โดยเอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งในการเป็นคู่สัญญากับสตช. โดยนายสุเทพระบุว่า ข้อกล่าวหานี้รุนแรงมาก ผิด ม.157

นายสุเทพ ระบุต่อว่า อันที่จริงเรื่องการตั้งข้อกล่าวหา เป็นการดำเนินการทำกันเป็นขบวนการติดต่อกันมาเป็นเวลา7 ปีเศษแล้ว โดยบรรดาสมุนของทรราชย์ ทั้งนักการเมือง พรรคการเมือง ข้าราชการและตำรวจ รวมถึงข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.พรรคเพื่อไทยก็ยังเคยเอาเรื่องนี้มาหาเสียง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ก็เคยกล่าวหาตนต่อสาธารณะ ทำให้ตนถูกโจมตีทางโซเชียลมีเดียมาโดยตลอด ซึ่งตนก็อดทนมาโดยตลอดเป็นเวลา 7ปี

“ผมได้ให้ความร่วมมือด้วยดีกับปปช. มาโดยตลอด เมื่อปปช.ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผม ก็ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงทั้งหมด เอาไปเสนอกับคณะอนุกรรมการไต่สวนปปช. ก็คิดว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้วและคดีไม่มีอะไรซับซ้อน ปปช.ควรจะตัดสินวินิจฉัยได้ แต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่คาด ก่อให้เกิดความสงสัยในใจว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนมีอคติต่อกระผม ตั้งธงเอาไว้ว่าจะต้องเข้าคุกให้ได้ ต้องลงโทษผมในคดีนี้ให้ได้”นายสุเทพ ระบุ

“พิจารณาแล้วเห็นว่าผมมีความจำเป็นที่จะต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างด้วยตัวผมเอง ทางที่ดีที่สุดก็คือเอาข้อกล่าวหาทั้งหมดมาเปิดเผยต่อพี่น้องประชาชน แล้วเอาหลักฐานเอกสารข้อเท็จจริงทั้งหลายมาแสดงต่อประชาชน รอปปช.วินิจฉัยไม่ทราบจะจบเมื่อไหร่ ขอให้ประชาชนพิจารณาไปพร้อมๆกัน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”นายสุเทพ กล่าว

และว่า “ผมตัดสินใจลุกขึ้นมาพูดจาเรื่องนี้กับพี่น้องทั้งหลาย ไม่ใช่เพื่อปกป้องชื่อเสียงส่วนตัว แต่เพื่อรับผิดชอบกับประชาชนชาวไทยเพราะเป็นคนที่เคยชักชวนให้ประชาชนมาต่อสู้กับรัฐบาล ทรราชย์ ที่ปล้นชาติโกงแผ่นดิน มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ถ้าผมเป็นคนชั่วและทุจริตคอรัปชั่นเสียเอง พี่น้องประชาชนเหล่านั้นย่อมต้องเสียใจมาก จึงขอถือโอกาสนี้เรียกร้องไปยัง ปปช. โปรดสั่งการให้คณะอนุกรรมการส่งมอบหลักฐานเอกสารที่เชื่อว่าตนทุจริตและเอามาเผยแพร่ให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อเปรียบเทียบกันดูว่าข้อเท็จจริงที่ ปปช.มี กับข้อเท็จจริงที่ตน นำเสนออันไหนเหมาะสมน่าเชื่อถือมากกว่ากัน และขอพูดถึงกลุ่มที่ให้ร้ายโจมตีตน ทั้งตำรวจ ดีเอสไอ นักการเมืองพรรคเพื่อไทย หากมีเอกสารหลักฐานที่จะเอาผิด รีบเอาไปให้ปปช. เพื่อให้รีบสรุปคดีนี้และส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนจะได้ไปต่อสู้คดีในศาล ดีกว่าดองอยู่แบบนี้แล้วทำให้เสียหาย โดยเฉพาะขณะนี้ตนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย นี่เป็นความพยายามเตะตัดขากันหรือเปล่า เป็นการพยายามทำลายคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคการเมืองของประชาชนที่ตนและผู้ร่วมอุดมการณ์กำลังทำขึ้น”

“ เรื่องนี้เดิมพันสูงครับ ถ้าผมผิดก็เอาชีวิตผมไป แต่ถ้าปปช.ไม่สามารถดำเนินคดี เอาหลักฐานพยานไปเสนอต่อศาลฎีกาลงโทษผมได้ ผมคิดว่าปปช.ต้องพิจารณาตัวเอง ว่าท่านผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ทำหน้าทีองค์กรอิสระที่สำคัญในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นด้วยความสุจริตใจต่อไปอีกหรือไม่ ขอย้ำวันนี้ไม่ใช่การเอาแพ้แต่เป็นความจำเป็นที่จะต้องพิสูจน์ให้ประชาชนทั้งประเทศหายสงสัยกันเสียที ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปผมจะนำหลักฐานมาชี้แจงต่อข้อกล่าวหาทุกข้อ มาแสดงกับพี่น้องประชาชน”นายสุเทพ กล่าวทิ้งท้าย