คณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชาได้ประกาศผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการซึ่งปรากฏว่า พรรคประชาชนกัมพูชา(ซีพีพี) ของสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กวาดที่นั่งทั้ง 125 ที่นั่งในรัฐสภาไปได้ทั้งหมด

โฆษกคณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชาระบุว่า ซีพีพีไม่เพียงแต่จะชนะในทุกเขตเลือกตั้ง แต่ยังได้รับคะแนนเสียงรวม 4.8 ล้านเสียง จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียง 6.9 ล้านคน โดยพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 คือพรรคฟุนซินเปก ของเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งขันสำคัญของสมเด็จฯฮุน เซน แต่ขณะนี้จับมือเป็นพันธมิตรกัน ได้เสียงสนับสนุนตามมาเพียง 375,510 คะแนน

ขณะที่พรรคกู้ชาติกัมพูชา(ซีเอ็นอาร์พี) พรรคฝ่ายค้านหลักที่แท้จริงซึ่งเป็นคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวของซีพีพีได้ถูกยุบพรรคไปตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยศาลสูงของกัมพูชา ขณะที่สมาชิกพรรคอีก 118 คนถูกห้ามไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังคณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาได้ประกาศผลการเลือกตั้ง สหรัฐอเมริกาได้ประกาศว่าจะขยายมาตรการเข้มงวดในการให้วีซ่ากับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำอันถือเป็นการต่อต้านประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมาของกัมพูชา

ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนออกมาระบุว่า ผลการเลือกตั้งดังกล่าวทั้งไม่เสรีและไม่ยุติธรรม เห็นได้จากที่ไม่มีคู่แข่งขันของพรรคซีพีพีภายใต้การนำของสมเด็จฯฮุน เซน ที่ปกครองกัมพูชามายาวนานกว่า 3 ทศวรรษร่วมลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งแม้แต่คนเดียว