นายกฯกำชับจนท.แก้ไขปัญหาจราจรกรุงเทพฯ ขอให้มีผลรูปธรรมภายใน3เดือน

นายกรัฐมนตรีพร้อมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังแนวทางแก้ไขปัญหาจราจร ชีนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาควบคุมการจราจรและเพิ่มระบบฟีดเดอร์ เชื่อมระบบรางทุกเส้นทาง ระบุต้องเห็นผลรูปธรรมภายใน 3 เดือน

วันนี้ (15 ส.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมกองบังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.จร. เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และรับฟังบรรยายสรุป สภาพปัญหา แนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อันเนื่องมาจากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า สายสีเขียว สายสีส้ม สายสีเหลือง สายสีชมพู สายสีแดงเข้ม สายสีเขียว และสายสีทอง รวมถึงการแก้ไขปัญหาราจรเร่งด่วนเฉพาะพื้นทึ่ ในถนนลาดพร้าว รามคำแหง และศรีนครินทร์ ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถือเป็นวาระสำคัญของกรุงเทพมหานคร ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

โดยนายกรัฐมนตรี ชี้หลักการสำคัญของการแก้ไขปัญหาจราจรกทม. และปริมณฑล ต้องเพิ่มเทคโนโลยีแทนตัวบุคคล ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยจะหารือกับฝ่ายวิจัยของมหาวิทยาลัย เพื่อนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาควบคุมการจราจร เพื่ออาจจะเป็นผลงานวิจัยของไทยในอนาคตไปด้วย ขณะที่บุคลากรทำหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ และซ่อมบำรุง พร้อมแนะการเปิดเส้นทางเดินรถใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนเมือง เพื่อลดความแออัด โดยขยายออกไปในพื้นที่ปริมณฑล นอกจากนี้ เน้นการสร้างระบบเชื่อมต่อการเดินรถ หรือ ฟีดเดอร์ เพราะปัจจุบัน ระบบเดินรถทางบก ยังไม่เชื่อมต่อระบบราง ในทุกเส้นทาง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีมองว่า เส้นทางใดมีทางน้ำขนาบ ให้ไปพิจารณา เบี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน ควบคู่ได้หรือไม่ โดยกำชับ กระทรวงคมนาคมร่วมกับกรุงเทพมหานคร ให้ศึกษาเส้นทางน้ำ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ก่อสร้างถนน ให้คำนึกถึงความปลอดภัย ผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะพื้นที่ที่ลดช่องทางจราจร ให้ระมัดระวัง โดยจะต้องให้สัญญาณล่วงหน้าก่อนถึงช่วงลดช่องจราจร เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ พร้อมขอให้ทุกคนเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงสื่อมวลชน ต้องช่วยกันในการนำเสนอข้อมูลการจราจรที่ถูกต้อง

นายกรัฐมนตรี ยังแนะให้เอกชน ไปสำรวจพื้นที่สร้างที่จอดรถ ใกล้กับสถานที่ที่สำคัญ และเสนอมายังรัฐบาลเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ให้หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น และบรรเทาการจราจรติดขัดบนท้องถนน พร้อมจุดกลับรถ ที่ต้องไปศึกษาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ ที่อาจจะให้ไปกลับรถบนสะพานกลับรถ

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับล่าง ที่อำนวยความสะดวกโดยปิดช่องทางการจราจรให้ตนเวลาเดินทาง แต่ขอให้ปิดเท่าที่จำเป็น แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่ต้องปิด เพราะตนพร้อมติดไปกับทุกคน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การแก้ไขปัญหาจราจร เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ และถือเป็นวาระสำคัญของกรุงเทพมหานคร ที่ทุกคนต้องช่วยกัน ตนเองก็อยู่กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือรัฐบาล ต้องใช้ระบบการจราจรเช่นเดียวกัน ให้เข้าใจร่วมกัน และช่วยกัน และขอให้การแก้ไขจราจร มีผลรูปธรรมภายใน3เดือน