ชาว อ.บัวใหญ่ ร้อง ‘บิ๊กตู่’ ใช้ม.44 แยกตัวจากจ.นครราชสีมา หลัง ‘สามมิตร’ เข้ารับฟังปัญหา

ชาว อ.บัวใหญ่ ร้อง ‘บิ๊กตู่’ ใช้ม.44 แยกตัวจากจ.นครราชสีมา หลัง ‘สามมิตร’ เข้ารับฟังปัญหา ด้วยตัวอำเภออยู่ห่างไกลจากจังหวัดกว่า 100 กม. งบประมาณได้ไม่ทั่วถึง เหตุจังหวัดมีอำเภอมากเกินไป

อ.บัวใหญ่ – วันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำกลุ่มสามมิตร ได้นัดพบปะและรับฟังปัญหาจากประชาชนในเขต อ.บัวใหญ่ และอำเภอใกล้เคียง 7 อำเภอ ของจ.นครราชสีมา โดยมีชาวบ้านกว่า 1,000 คน เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรม ที่บ้านของนายภิรมย์ ในต.ด่านช้าง อ.บัวใหญ่ โดยในระหว่างการพูดคุย นายคำพันธ์ บุญยืด ตัวแทนกลุ่มประชาชนอำเภอบัวใหญ่ ได้เสนอให้กลุ่มสามมิตร ติดตามทวงถามรัฐบาล ในประเด็นขอแยกตัวออกจากจ.นครราชสีมา ตั้งเป็น “จ.บัวใหญ่” เพราะพื้นที่นี้ห่างจากตัวจ.นครราชสีมา มากกว่า 100 กิโลเมตร รวมทั้งมองว่าจ.นครราชสีมา มีถึง 32 อำเภอ จัดสรรงบประมาณไม่ครอบคลุมทั่วถึง ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวแทนชาวอำเภอบัวใหญ่และอำเภอใกล้เคียง เคยยื่นหนังสือขอแยกเป็นจ.บัวใหญ่ต่อกระทรวงมหาดไทยแล้วหลายครั้ง และเคยเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ประกาศตั้ง “จ.บัวใหญ่” ขึ้น

ทำให้ประเด็น “จ.บัวใหญ่” ถูกหยิบยกนำมาพูดคุยในวงสนทนาอีกครั้ง หลังจากมีข้อเสนอโดยนายอรุณ อัครปรีดี พร้อมกับประชาชนจำนวน 20,582 คน ยื่นรายชื่อเสนอกฎหมาย “ร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบัวใหญ่ พ.ศ. …” เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 และก่อนหน้านั้นได้ยื่นต่อนายโกศล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2555 ขอให้แยกอ.บัวใหญ่ออกจากจ.นครราชสีมา มาเป็น “จ.บัวใหญ่” เนื่องจากอ.บัวใหญ่ และอำเภออื่นๆ ต้องการแยก เพราะห่างไกลความเจริญ และต่อมาในปี 2557 ร่างพระราชบัญญัติตั้งจ.บัวใหญ่ดังกล่าวสิ้นสุดลง ภายหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ายึดอำนาจการปกครอง ได้ส่งผลให้การเสนอเรื่องตกไป แต่เมื่อเข้าใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนมีการเลือกตั้ง ก็ได้มีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาพูดคุยอีกครั้ง

อ.บัวใหญ่

จากการสอบถามนายอรุณ อัครปรีดี แกนนำคนสำคัญในการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการจัดตั้งจ.บัวใหญ่ ได้เปิดเผยว่า ประเด็นการตั้งจ.บัวใหญ่นั้น ได้ถูกพูดถึงมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งมีการนำมาเสนอขึ้นใหม่ เพื่อผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่ม แต่เพื่อเป็นการแยกออกเพื่อผลประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่ของประชาชนใน 8 อำเภอเอง เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณนี้เรียกว่าด่านนอก เป็นเมืองหน้าด่านของจ.นครราชสีมา เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์

อ.บัวใหญ่แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปงบประมาณในการพัฒนา จะเน้นหนักไปในการพัฒนาแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงในเขตเมืองเป็นหลัก ทำให้แหล่งน้ำของทั้ง 8 อำเภอเริ่มเสื่อมโทรม จนหลายแห่งไม่สามารถใช้การได้ในที่สุด นำมาซึ่งความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนความพร้อมในการพัฒนาเป็นจังหวัดนั้น ทุกภาคส่วนมีความพร้อมมากที่สุด ขาดเพียงการสนับสนุนจากภาครัฐเท่านั้น เนื่องจากในพื้นที่ของทั้ง 8 อำเภอ มีแหล่งท่องเที่ยวที่พร้อมพัฒนาให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี และเชื่อว่าถ้าอ.บัวใหญ่ได้ยกระดับขึ้นเป็นจังหวัด จะทำให้ชีวิตของประชาชนใน 8 อำเภอดีขึ้นอย่างแน่นอน

ด้านนายคำพันธ์ บุญยืด ทีมงานและเลขานุการกลุ่มฯ เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาได้ทำตามขั้นตอนการยื่นกฎหมายภาคประชาชนจนเสร็จสิ้นกระบวนการ ซึ่งร่างดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของ สนช. และตราบใดที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังมีความเหลื่อมล้ำในสังคมอยู่ ทางกลุ่มก็จะไม่หยุดการเคลื่อนไหว เพราะถ้าเมื่อใดที่อ.บัวใหญ่ได้ยกระดับขึ้นเป็นจังหวัดแล้วนั้น ทุกอย่างก็จะดีขึ้น เศรษฐกิจก็จะดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวบัวใหญ่เรียกร้องมาโดยตลอด

อ.บัวใหญ่

ส่วนนายสิทธิโชค ลิ้มสุวัฒน์ ตัวแทนภาคประชาชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาในอ.บัวใหญ่นั้น สำหรับคนรุ่นใหม่ถ้าสามารถยกระดับขึ้นเป็นจังหวัดได้ ก็จะมีงบประมาณสนันสนุนเป็นของตัวเอง แล้วจะกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ รวมถึงเป็นแหล่งอุตสาหกรรมอีกแห่งที่สำคัญของภูมิภาคนี้ทันที จะมีการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในพื้นที่ และการพัฒนาการท่องเที่ยว บัวใหญ่เองมีวัฒนธรรมด้านอาหารที่เด่นชัด และถือว่าเป็นจุดแข็ง จุดขาย ที่สามารถยกมาประชาสัมพันธ์ได้ รวมถึงการพัฒนาด้านกีฬา ที่ผ่านมาในพื้นที่ 8 อำเภอ มีเด็กที่มีศักยภาพทางด้านกีฬามากมายหลายคน แต่ก็ขาดการสนับสนุนจากภาครัฐเท่าที่ควร ดังนั้นการยกระดับอ.บัวใหญ่ขึ้นเป็นจังหวัดนั้น จะทำให้ประชาชนใน 8 อำเภอได้รับประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น