วันที่ 15 สิงหาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า จากกรณี คสช.มีคำสั่งที่ 9/2560 ทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยใน กทม.บริเวณชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 โดยมอบหมายให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เป็นผู้ดำเนินการ และกำหนดให้ พอช.จัดทำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อขอความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ต่อมา สผ.ให้ความเห็นชอบมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 จากนั้นเป็นหน้าที่ของ พอช. ต้องนำมาตรการดังกล่าวไปปฏิบัติตาม พรบ.สิ่งแวดล้อม 2535 และผู้อำนวยการเขตสายไหมจะต้องบังคับให้การก่อสร้างไม่ขัดต่อ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ 2535 พ.ร.บ.การสาธารณสุข 2535 และพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตรวจสอบพบว่าที่ผ่านมาการก่อสร้างโครงการบ้านมั่นคง ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ไม่มีการจัดทำรั้วหรือกำแพงล้อมรอบบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง ไม่มีรั้วหรือกำแพงที่มีความสูงอย่างน้อย 2 เมตร ไม่มีการใช้ผ้าใบล้อมรอบตัวอาคาร ที่มีความสูงเท่ากับความสูงของอาคารขณะก่อสร้างเพื่อป้องกันฝุ่นละอองและเศษวัสดุก่อสร้างร่วงหล่นและลดความดังของเสียง นอกจากนั้นยังพบว่ามีการนำเศษวัสดุจากการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเศษวัสดุ ถมลงไปในคลองลาดพร้าว มีการตัดต้นไม้ใหญ่ ทำลายพื้นที่สีเขียว เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ 2535 โดย ผอ.พอช. และ ผอ.เขต ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงถือได้ว่าเป็นการ “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

“ สมาคมฯพร้อมด้วยชาวชุมชนริมคลองประมาณ 300 คน จะเดินทางไป สน.สายไหม เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ ผอ.พอช. และ ผอ.เขต เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 59 มาตรา 84 และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในมาตรา 50 วรรคสอง ตาม พรบ.สิ่งแวดล้อม 2535 และเป็นการกระทำที่ขัดต่อคำสั่ง คสช.ที่ 9/2560 เพื่อดำเนินการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. โดยจะเดินทางไปแจ้งความภายในที่ 15 สิงหาคมนี้” นายศรีสุวรรณกล่าว