2 เขื่อนใหญ่กาญจน์เร่งพร่องน้ำต่อเนื่อง ระบายออกรวมกว่า 62 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ยืนย้นความแข็งแรง

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายประเสริฐ อินทับ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ (อขศ.) อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบัน (วันที่ 13 สิงหาคม 2561 เวลา 08.00 น.) อยู่ที่ระดับ 174.49 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นปริมาณน้ำ 15,526.81ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 87.50% โดยวันนี้มีแผนการระบายน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยวานนี้ (12 ส.ค.61) มีน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 31.95 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ระบายน้ำออกตามแผนการระบายน้ำ 19.98 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งตอนนี้ยังมีพื้นที่รับน้ำได้อีก 2,218.19 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ยังคงสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก โดยไม่เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงและปลอดภัยของตัวเขื่อน รวมไปถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชนด้านท้ายน้ำ

ขณะเดียวกันได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แผนกบำรุงรักษาเขื่อนและอาคารโรงไฟฟ้า กองบำรุงรักษาโยธา เขื่อนศรีนครินทร์ เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดเครื่องมือวัดทุกตัว และให้รายงานผลการตรวจวัดทุกวัน หลังจากมีปริมาณน้ำไหลเข้ามาในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์มีมากกว่า 80% โดยทำการตรวจสอบและตรวจวัด ความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อน ด้วยสายตาตลอดแนวสันเขื่อนทั้งด้านเหนือน้ำ ท้ายน้ำ และตรวจสอบด้วยเครื่องมือวัด ในอุโมงค์ตรวจสอบใต้ฐานเขื่อน ตัวสันเขื่อนและจุดวัดระดับน้ำใต้ดินด้านท้ายเขื่อน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าตัวชี้วัดทุกตัวยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีแนวโน้มหรือบ่งชี้ว่ามีสิ่งผิดปกติแต่ประการใด เขื่อนยังมีความแข็งแรงมั่นคง ปลอดภัย

ด้าน นายไววิทย์ แสงพานิชย์ ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ (อขว.)อ.ทองผาภูมิ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งมีความจุอ่าง 8,860 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ระดับ 155 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) โดยข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2561 เวลา 06.00 น. มีปริมาณน้ำในเขื่อน 7,593 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 85% โดยวานนี้ (13 ส.ค.61) มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 57.68 ล้าน ลบ.ม. และระบายน้ำออก 42.66 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีมติให้เร่งพร่องน้ำออกไป เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝน ในช่วงเดือน สิงหาคม และกันยายนนี้ จึงมีมติปรับแผนการระบายน้ำ วันที่ 13 สิงหาคม-30 กันยายน 2561 ระบายน้ำเฉลี่ย 43 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,267 ล้านลูกบาศก์เมตร และได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา โดยมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้ หากสถานการณ์น้ำมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการปรับแผนระบายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้งหนึ่ง

พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แผนกบำรุงรักษาเขื่อนและอาคารโรงไฟฟ้าและผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบตัวเขื่อนกรณีพิเศษทุกวัน กรณีมีการเก็บกักน้ำเกินกว่า 80% โดยทำการตรวจสอบอุโมงค์ Spillway Irrigation Outlet อ่างเก็บน้ำ ด้วยการตรวจสอบด้วยสายตา โดยการเดินตรวจตราตามตัวเขื่อน ด้านเหนือน้ำ ท้ายน้ำ ไหล่เขื่อนฝั่งขวา ไหล่เขื่อนฝั่งซ้ายเพื่อพิจารณาโครงสร้างว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ ซึ่งผลการตรวจสอบสภาพทั่วไปปกติ และการตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจวัด ซึ่งผลการตรวจสอบสภาพทั่วไปปกติ จึงขอยืนยันว่าเขื่อนวชิราลงกรณ ยังมีความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย