สามมิตร ไม่หวั่นถูก กกต.สอบเอาผิด ยันเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน

เมื่อวันนี้ 12 สิงหาคม ที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มสามมิตรประจำจ.นครราชสีมา ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตร กล่าวถึงการเดินทางไปพบกับนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญาในคดีแก้ผ้านักข่าวของกลุ่มสามมิตร เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าจะเป็นอุปสรรคในการร่วมกันทำงานรวมถึงการส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่นั้นว่า เมื่อวานที่ไปหาหมอเปรมไม่ใช่เป้าหมาย เรื่องหมอเปรมจะได้ลงผู้แทนหรือจะได้เป็นผู้แทนหรือไม่ แต่ไปหาเพื่อให้ประสานพี่น้องในเขตเลือกตั้ง มาแลกเปลี่ยนปัญหาพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นหมอเปรมจะสอบได้ สอบตกหรือจะพ้นคดีหรือไม่นั้นกลุ่มสามมิตร ไม่รู้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่วันนี้เราเห็นว่าหมอเปรมฯเป็นผู้ที่มีศักยภาพในเขตอำเภอบ้านไผ่ อ.โนนศิลา และในหลายๆพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานมีประชาชนมากันไม่ 300 กว่าคน ไม่ได้มีการจ้างมาสักคน สามารถสอบถามได้ แต่ประชาชนเดินทางมาเพื่อที่จะมาพูดถึงปัญหาต่างๆให้กลุ่มสามมิตรฟังและอยากฟังความคิดของสามมิตรว่าจะทำอะไรให้ได้บ้าง นั่นคือประเด็นหลักของการเดินทางไปพบกับนายแพทย์เปรมศักดิ์ฯ

นายภิรมย์ กล่าวถึงกรณีที่ประธาน กกต.จะตรวจสอบการทำกิจกรรมของกลุ่มสามมิตรว่าผิดกฎหมายอย่างไรหรือไม่นั้นว่า พวกเรายืนยันมาตลอดว่ากลุ่มสามมิตรไม่ใช่พรรคการเมือง การตั้งชื่อว่ากลุ่มสามมิตรก็เพื่อแสวงหาความต้องการหรือแนวคิดที่จะทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน

เพราะฉะนั้นถ้าเกิด กกต.ยุบกลุ่มสามมิตรก็คงไม่มีกฏหมายใดที่มายุบความคิดของประชาชนได้ แต่ถ้ายุบจริงวันนี้พรุ่งนี้ตนเองก็จะตั้งกลุ่มมหามิตรขึ้นมาใหม่ได้ไม่ได้ซีเรียสหรือมีปัญหาแต่อย่างใด สรุปแล้วกลุ่มสามมิตรยังจะเดินหน้าแลกเปลี่ยนแนวคิดกับประชาชนทุกกลุ่มทุกอาชีพต่อไปโดยไม่ย่อท้อ” นายภิรมย์กล่าว

และว่า การที่ คสช.ออกคำสั่งมาไม่ให้มีการชุมนุมเกิน 5 คน ก็เพราะเกรงว่าคนจะมารวมกันเกิน 5 คน แล้วมาพูดคุยกันเรื่องการเมืองแล้วเกิดการทะเลาะกันและเกิดความแตกแยกในสังคมตามมา ซึ่งไม่มีกฎหมายใดในโลกที่จะมาลงโทษกลุ่มคนที่มารวมกัน 200-300 คน แล้วพูดคุยในเรื่องที่สร้างสรรค์ สร้างความรักความสามัคคีและเกิดประโยชน์ในวันข้างหน้า

“ถ้าตนมาพูดคุยกันแล้วทำเขารักกันไม่ทะเลาะกันนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์เพื่อประชาชนก็ให้มาจับผมได้เลย ผมจะยอมติดคุกจะได้ผอมๆเหมือนคนที่เคยติดคุกสัก 3 เดือน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่จะมาจับผมเพราะพูดคุยกันแล้วประชาชนได้ประโยชน์ สรุปแล้วสามมิตรเดินหน้าต่อและวันนี้หัวหน้ากลุ่มก็มีคำสั่งมาแล้วว่าภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ก็ไปมาแล้ว สัปดาห์หน้าจะลงไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ของนายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตรอีกคน ส่วนตนเองจะขอรับผิดชอบทางภาคอีสานอีกสักระยะ”