คลังเผยไทยขึ้นทะเบียนสตาร์ตอัพแล้ว 1.7 พันราย

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ ซึ่งมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานคณะกรรมการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2561 ว่า ขณะนี้ จำนวนวิสาหกิจเริ่มต้น (สตาร์ตอัพ) ในประเทศไทยที่ลงทะเบียนกับ http://startupthailand.org ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติมีจำนวน 1,700 ราย พบว่ามีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 658) พ.ศ. 2561 เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรสุทธิ เป็นระยะเวลา 5 รอบระยะเวลาบัญชี ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2561 โดยเข้ามาจดทะเบียนและยื่นขอรับการรับรองกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) แล้ว 155 ราย ได้รับการรับรองจาก สวทช. แล้ว 100 ราย และได้ขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับกรมสรรพากรแล้ว 83 ราย โดยมีกิจการได้รับการรับรองเพิ่มขึ้น 1 ราย และขอใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มขึ้น 1 ราย

นายพรชัยกล่าวต่อว่า สำหรับสตาร์ตอัพได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านการร่วมลงทุนกับธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารกรุงไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2561 มียอดรวมของการอนุมัติการร่วมลงทุนในสตาร์ตอัพ 44 ราย วงเงินรวม 1,212.3 ล้านบาท โดยมีสตาร์ตอัพ 11 ราย ร่วมลงทุนแล้ว คิดเป็นเงินร่วมลงทุน 276 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว มีสตาร์ตอัพรับการสนับสนุนเพิ่มขึ้น โดยมีกิจการที่ได้รับอนุมัติการร่วมลงทุนเพิ่มจำนวน 4 ราย วงเงิน 164.8 ล้านบาท

นายพรชัยกล่าวว่า พบว่าจำนวนกลุ่มนักลงทุนในประเทศไทยที่ลงทะเบียนกับ Web Portal ปัจจุบันมีกลุ่มนักลงทุนเข้าลงทะเบียนบนเว็บไซต์ http://startupthailand.org แล้วจำนวน 400 ราย ส่วนกิจการเงินร่วมลงทุน และทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน ที่ขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 636) พ.ศ.2560 เพื่อขอรับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้จากเงินปันผลและรายได้จากการโอนหุ้นของบริษัทเป้าหมาย เป็นระยะเวลา 10 รอบระยะเวลาบัญชี ในเดือนกรกฎาคม 2561 พบว่าผู้จดแจ้งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ แล้ว 32 ราย