ทนายษิทรา พา ‘เจ๊เยา’ ผู้ต้องหาสั่งฆ่าเศรษฐีโรงเกลือมอบตัว ‘กองปราบ’ ยันรู้ผู้บงการ

จากคดีสะเทือนขวัญ กลุ่มคนร้ายรุมแทงเชือดคอนางสายันต์ จันทรา หรือเจ๊สายันต์ อายุ 64 ปี และนายพิพัฒน์ ตั้งพงศ์ทอง หรือเสี่ยกวง อายุ 71 ปี ทั้งสองเป็นเศรษฐีร้อยล้าน เจ้าของตลาดสายันต์ในตลาดโรงเกลือ เสียชีวิตสยอง 2 ศพ คาบ้านเลขที่ 16 หมู่ 10 บ้านใหม่ไทยพัฒนา ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเวลา 11.20 น.วันที่ 7 สิงหาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) นางมณีรัตน์ โกทันย์ หรือเจ๊เยา ผู้ต้องหาตามหมายจับพร้อมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ในฐานะทนายผู้เสียหาย ได้พานางมณีรัตน์เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) โดยนางมณีรัตน์ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่าเจ๊สายันต์ เศรษฐีตลาดโรงเกลือ เสียชีวิตพร้อมสามีอย่างเหี้ยมโหด โดยหลังจากเกิดเหตุนางมณีรัตน์ได้หลบหนีไปที่ประเทศลาว แล้วนายษิทรา ในฐานะทนายผู้เสียหาย ได้ประสานไปยังประเทศลาว จนกระทั่งผู้ต้องหายอมมอบตัว และยืนยันว่าจะให้การกับตำรวจกองปราบปรามเพื่อสาวถึงตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในการฆาตกรรมเจ๊สายันต์กับสามี และตนยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นายษิทรากล่าวว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมกราคม และเจ๊เยาก็โดนหมายจับพอดีตอนนั้นอยู่ที่ประเทศลาว เป็นทนายผู้เสียหายและได้ประสานกับทางการลาวและกลุ่มญาติของเจ๊เยาเพื่อให้เจ๊เยามามอบตัวในวันนี้ ซึ่งเจ๊เยาได้มีส่วนเกี่ยวข้องและรู้ตัวผู้บงการ และมีหลักฐานพอที่ทำให้รูปคดีมีน้ำหนัก จึงได้มาให้การกับตำรวจว่าตัวจริงผู้บงการฆ่าคือใคร โดยจะไปให้การกับพนักงานสอบสวนที่จังหวัดสระแก้ว แต่วันนี้จะมามอบตัวกับกองปราบปรามก่อนและทางเจ้าหน้าที่จะส่งตัวเจ๊เยาไปให้พนักงานสอบสวนที่จังหวัดสระแก้วต่อไป

ด้านนางมณีรัตน์ หรือเจ๊เยา กล่าวว่า ทราบผู้ที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้ เหตุที่บอกว่าหลบหนีไปอยู่ลาวความจริงตนแค่ไปเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้คิดจะหลบหนีแต่อย่างใด รู้สึกตกใจว่าทำไมถึงได้มีหมายจับคดีจ้างวานฆ่า เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้รู้จักผู้ตายเป็นการส่วนตัว วันนี้จึงได้ออกมาทวงความยุติธรรม

“ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังดิฉันรู้จักและเป็นคนสนิทกับเขาส่วนหนึ่งเพราะเคยช่วยเขาหาเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น ยังไม่ขอตอบว่าเป็นใคร เพราะจะต้องให้การกับตำรวจ แต่มีข้อมูลว่าคนคนนั้นเคยพูดคุยกับดิฉันว่าต้องการเงินเพื่อนำไปใช้ในการหาเสียง กำลังมองไว้อยู่บ้านหลังหนึ่ง คาดว่าเป็นบ้านเจ๊สายันต์ และถ้าจำเป็นจะต้องฆ่าก็ต้องฆ่า ดิฉันได้ยินมาอย่างนั้นแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามต่อ เพราะตอนนั้นกำลังนั่งรถไปด้วยกัน” เจ๊เยากล่าว

นางมณีรัตน์กล่าวต่อว่า หลังจากมีการก่อเหตุตอนนั้น ซึ่งตัวผู้บงการได้บอกกับตนว่าให้ข้ามฝั่งไปลาวอย่าเพิ่งกลับมาเพราะกำลังโดนคดีทางการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่โดนหมายจับบงการฆ่าเจ๊สายันต์ และยังพยายามใส่ร้ายเรา วันนี้จึงต้องออกมาพูด ออกมาพิสูจน์ความจริง ให้กองปราบนำเราเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรามีหลักฐานทุกอย่างที่ทำให้สามารถรู้ตัวจริงของผู้บงการ และจะนำหลักฐานเหล่านั้นให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป