ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรม คดีลูก พ่อโดดศาลดับ ย้ำสั่งผบช.น.เช็กสำนวนบกพร่องตรงไหน

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนายศุภชัย ทัฬหสุนทร กระโดดลงมาจากชั้น 8 ศาลอาญารัชดา จนเสียชีวิตเนื่องจากเกิดความเครียดและผิดหวังหลังศาลยกฟ้องคดีที่นายธนิต ทัฬหสุนทร ลูกชาย ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2559 ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น สำนวนมีความบกพร่องตรงไหน จุดใด แล้วให้กลับมาชี้แจง เพราะเรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นดุลพินิจของท่าน

“ที่ผ่านมา ผมกำชับตลอดว่าทุกคดีต้องสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคดีดังหรือไม่ดังก็ให้ความสำคัญเท่ากัน แต่บางคดีก็มีข้อจำกัดในเรื่องการหาพยานหลักฐาน เช่นกล้องวงจรปิดใช้ไม่ได้ มองไม่เห็น หรือหลักฐานไปไม่ถึงจริงๆ ตรงนี้ก็อาจจะเป็นจุดอ่อนของสำนวนก็ได้ ซึ่งเรื่องกล้องวงจรปิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯก็กำชับตลอด เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการสืบสวนสอบสวน ยืนยันว่าทุกคดีตำรวจทำเต็มที่ บางคดียากๆ อย่างเช่นคดีฆ่าหั่นศพตำรวจก็ทำได้ คดีนี้ก็ต้องกลับไปดูว่ามันมีส่วนบกพร่องตรงไหนอย่างไร ถ้าตำรวจทำไม่ดีผมก็ต้องลงโทษอยู่แล้ว” ผบ.ตร. กล่าว

ส่วนกรณีที่ทางครอบครัวของผู้เสียหาย ออกมาระบุ ว่าตำรวจให้ครอบครัวแสวงหาพยานหลักฐานฝ่ายเดียว ผบ.ตร.กล่าวว่า ต้องสอบถามไปยังสถานีตำรวจนครบาลที่เป็นเจ้าของคดี เพราะทุกคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจแสวงหาพยานหลักฐานเต็มที่อยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติ โดยปกติตำรวจจะแสวงหาและรวบรวมพยานหลักฐานก่อน และเรื่องนี้ก็ไปถึงศาลชั้นต้นแล้ว จากนี้ก็ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ ถ้าหากญาติผู้เสียหายจะขอรื้อหรือโอนคดีไปกองปราบปรามก็เป็นสิทธิของญาติ แต่ก็ต้องพิจารณาว่าสามารถทำได้หรือไม่