บิ๊กตู่เผย 4ปีทำงานหนัก พูดแล้ว10ล้านคำ ลั่น แม้ไม่เห็นผลวันนี้ แต่จะเห็นระยะยาว

“บิ๊กตู่” เผย ตั้งแต่เป็นนายกฯพูดแล้ว 10 ล้านคำ ยัน เลือกตั้งปีหน้า ไม่เลือก ก็พร้อมดูแล

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้การต้อนรับเยาวชนโครงการเยาวชนไทยในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกาเยือนถิ่น ครั้งที่ 2 ประมาณ 70 คน โดยให้โอวาทว่า เราจะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า ยืนยันว่าเราเป็นประเทศประชาธิปไตย จึงต้องมีการจัดเลือกตั้ง การที่ตนเข้ามาในวันนี้เพื่อต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย แก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน โดยหลายอย่างแก้ไขไปบ้างแล้ว 4 ปีที่ผ่านมาถือว่าทำงานอย่างหนัก เพราะต้องทำให้ประเทศไทยพัฒนาก้าวทันโลก

“แต่นิสัยคนไทยไม่ค่อยยอมใคร เพราะเราเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มาในอดีต และในอาเซียนประเทศไทยใหญ่มาก่อน เวลาไม่มีข้าศึกสู้รบ ก็จะเอากันสักหน่อย ทะเลาะกันเองบ้าง โกรธกันเองบ้าง แต่พอข้าศึกมา เราก็รวมหัวกันสู้ วันนี้เราต้องปรับท่าทีใหม่ทั้งหมด เพราะศาสนาพุทธสอนให้เราปรองดอง อยู่อย่างสมานฉันท์สามัคคี ศาสนาจึงถือเป็นหลักสำคัญ ก็ขอให้สอนลูกหลานไว้”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 4 ปีที่ได้เข้ามาทำหน้าที่ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก บางอย่างจะยังไม่เห็นผลในทันที แต่จะเห็นในระยะยาว สิ่งที่เห็นได้ทันทีคือความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง มีเสถียรภาพ ไปไหนมาไหนได้สะดวก สามารถทำมาค้าขายได้ แต่ไม่สามารถทำผิดกฏหมายได้ สิ่งนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญที่มีการกล่าวหาว่าเศรษฐกิจแย่ลง ก็เพราะขายของผิดกฎหมาย ผิดที่ผิดทางไม่ได้ ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ทั้งนี้ ปกติแล้วตัวเองยิ้มเก่ง แต่ตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกฯทำให้ต้องยิ้มน้อยลง เพราะมีเรื่องในหัวตั้งเยอะ วันนี้ดีใจเพราะได้เห็นเยาวชนคนไทย เพราะถือว่าโชคดีกว่าลูกตัวเอง เนื่องจากสมัยที่เป็นทหาร จะต้องออกไปตามแนวชายแดนครั้งละ 3 เดือน จากลูกไปตั้งแต่เด็กจนเรียนจบปริญญา ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จะได้มาเยี่ยมก็แค่ช่วงพักเท่านั้น อย่างเช่นตอนลูกเกิดใหม่ๆ กลับมาบ้านครั้งแรก ลูกร้องไห้เพราะจำหน้าพ่อไม่ได้ ทำให้สะเทือนในหัวอก

“แต่ผมไม่เคยเสียใจ ผมทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติของเรา ทุกคนเข้าใจซึ่งกันและกัน ถึงวันนี้เราก็ได้อยู่ด้วยกัน ผมมีลูกฝาแฝด ออกมาใหม่ๆก็เลี้ยงด้วยกัน และการที่ผมต้องพูดมาก ต้องอธิบายทุกเรื่อง ก็เพราะอยากให้ทุกคนเข้าใจ การพูดของผมทุกวันศุกร์ มีการถอดเทปมาแล้วว่า พูดไปแล้ว 4 ล้านกว่าคำ ยังไม่นับวันอื่นๆ ทั้งหมดน่าจะประมาณ 10 ล้านคำได้ ที่ต้องพูดเยอะแล้วสั่งเยอะ เพราะอย่างน้อยก็มีคนฟัง แม้จะฟังไม่จบ ก็มีคนฟังเป็นบางตอน ถ้าพูดสั้นๆก็คงไม่รู้เรื่องกันเลย เพราะไม่ฟังกันก็จะไม่ได้อะไรขึ้นมา ผมไม่ใช่นักแสดง ไม่ใช่ดาราที่ทุกคนจะมานั่งจ้องดูการแสดงทุกอย่าง ผมพูดก็เครียดทุกที พูดในความจริงซึ่งทุกคนควรยอมรับว่านี่คือความจริงของประเทศไทย โดยเราต้องซื่อสัตย์ต่อคนและประเทศของเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าตน ครม.ข้าราชการ ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภายใต้การนำของตนซึ่งเป็นทหารมาก่อน ก็ได้มีการพัฒนาตัวเอง ไม่ได้เอาหลักการสู้รบปรบมือมาปกครอง แต่ใช้แค่การปกครองทางวินัย การบังคับบัญชา และให้คุณให้โทษ แต่ในด้านการบริหาร ก็ต้องปรับปรุงตัวเอง โดยอ่านหนังสือ สอบถามผู้มีความรู้และครูบาอาจารย์รวมถึงจากต่างประเทศ ขณะที่บางอย่างก็คิดขึ้นมาใหม่ ในนามของหัวหน้ารัฐบาล ก็ต้องถูกฟ้องร้องและตรวจสอบ ไม่ใช่มาแบบนี้แล้วจะไม่ถูกตรวจสอบ ตนต้องรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะใช้ภาษีจากราษฎร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งว่าวันนี้กำลังสร้างอนาคตเพื่อทุกคน สิ่งที่ลงทุนไปในจะเห็นผลในอนาคตอย่างแน่นอน รัฐบาลนี้พัฒนาทุกพื้นที่ แม้ไม่มี ส.ส.ของตัวเอง แต่มีคณะทำงานลงไป นายกฯเองก็ลงไปรับฟังปัญหาในทุกพื้นที่ เราไม่ต้องให้ใครมาเลือกเพื่อให้ได้งบประมาณ เพราะไม่ต้องเลือกก็ยินดีทำให้ จะชอบหรือไม่ชอบนายกฯ ก็ยินดีทำให้ ในฐานะที่เป็นรัฐบาลเพราะทุกคนถือเป็นคนไทย