“อนุทิน” เช็คชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โคราช ประกาศภูมิใจไทยพร้อมเลือกตั้ง ระบุสามมิตรดูดเตรียมตัวพรรคการเมืองเชื่อแกนนำหวังดีต่อประเทศ

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ที่โรงแรมวี-วัน อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับเชิญจากสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนอัญสัมชัญนครราชสีมาไปบรรยายพิเศษทิศทางอนาคตของจังหวัดนครราชสีมา โดยก่อนจะขึ้นบรรยายนายอนุทินฯ ได้หารือร่วมกับบรรดาว่าที่ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา อาทิ นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา , นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย , นายสาธิต ด่านกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา , นายประนอม โพธิ์คำ อดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย , นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่นักธุรกิจพันล้านอย่างนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต สว.นครราชสีมา เจ้าของโรงงานแป้งมันสำปะหลังเอี่ยมเฮง อำเภอเสิงสาง คู่เขยกับนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย, นายสมศักดิ์ โสมกลาง อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา, นายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีตำบลพิมาย, นายอภิชา เลิศพชรกมล อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย

และยังมีบรรดาสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (ส.อบจ.) ที่เตรียมตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย เช่น นายมนัส ศรีบงกช ส.อบจ.เขต อ.โนนไทย , นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล ส.อบจ. เขต อ.โนนสูง คนสนิทนายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ, นายชวาล พัฒนกำชัย ส.อบจ. เขต อ.ขามสะแกแสง, นายชาคริต ทิศกลาง ส.อบจ. เขต อ.เฉลิมพระเกียรติ และยังมี นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นอกจากนี้ยังมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา ในฐานะศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา ก็มาร่วมงานและพูดคุยทักทายกับนายอนุทินฯ อย่างใกล้ชิดด้วย และเป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากนั่งโต๊ะกลมจิบกาแฟเสร็จ ทางสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญนครราชสีมา ได้มีการมอบผ้ายันพระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่นแพ้ไม่เป็น ซึ่งปลุกเสกโดย พระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ให้กับนายอนุทินด้วย

นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การมาครั้งนี้ถือเป็นการมาพบปะพูดคุยกันเป็นเรื่องปกติ เพราะตนเองก็ถือว่าเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา หรือโคราชเหมือนกัน ที่มีบ้านพักอยู่ อ.ปากช่อง ทั้งนี้ตนมองว่าโคราชเป็นจังหวัดด่านหน้าของภาคอีสาน ซึ่งคนทุกภาคที่จะเดินทางไปจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน ก็ต้องผ่านโคราชทั้งนั้น จึงถือว่าโคราชเป็นเมืองสำคัญอันดับต้นๆ ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ถ้าสามารถพัฒนาโคราชให้มีความเจริญในทุกๆ ด้าน ก็จะเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง และมั่นคงได้ ซึ่งวันนี้จังหวัดอื่นๆ ก็ต้องอิจฉาโคราช เพราะมีโครงการเมกะโปรเจกต์เข้ามามากมาย ทั้งโครงการรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ถนนมอเตอร์เวย์ และมีสนามบินถึง 2 แห่ง ถือว่ามีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงมากอยู่แล้ว เมื่อพูดถึงการเมือง ก็เป็นจังหวัดที่มี ส.ส.มากที่สุดในประเทศ ถ้าไม่นับกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีอะไรให้ทำอีกมากมาย สิ่งสำคัญคือต้องมีความร่วมมือร่วมใจกัน แต่ที่ผ่านมานักการเมืองในโคราชไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะมี ส.ส.อยู่หลายพรรคการเมืองเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถพัฒนาก้าวหน้าไปได้มากเท่าที่ควร แต่โชคดีที่มีโครงสร้างพื้นฐานดี จึงไม่ก้าวถอยหลัง

“หลังจากนี้ไปโคราชควรจะพัฒนาไปสู่ความเป็นฮับของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของ ส.ส.คือคำตอบสุดท้ายที่จะช่วยผลักดันได้ ดังนั้น ส.ส.ทุกคนต้องสนับสนุนนโนบายที่จะช่วยพัฒนาทำให้โคราช เป็นเมืองที่จะซับพอร์ตเศรษฐกิจของภาคอีสานทั้งหมด ซึ่งถ้าทำได้จะกลายเป็นเมืองที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระจายรายได้ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพราะโคราชจะกระจายสินค้าโยงไปได้หลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ ไปได้ทั้งหมด”นายอนุทินกล่าว

ส่วนการเมืองในขณะนี้นั้น ตนก็มองว่าทุกคน ทุกพรรค มีความกระตือรือร้น ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรอการเลือกตั้ง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ก็ได้ประกาศแล้วว่า จะต้องมีพระราชพิธีที่สำคัญ อันเป็นมงคลของคนไทยทั้งประเทศก่อน ดังนั้นเรื่องการเลือกตั้งจึงเป็นเรื่องรอง ต้องรอความพร้อม และมีการเตรียมตัวให้ดีก่อน วันนี้จึงไม่อยากพูดถึงเรื่องของการเลือกตั้ง

ต่อคำถามเรื่องที่กลุ่มสามมิตร ที่มีการเคลื่อนไหว เดินสายพบปะกับอดีต ส.ส.และนักการเมือง เพื่อดูดเข้าร่วมกลุ่มโดยมีข่าวใช้เงินซื้อตัว โดยที่ คสช.ไม่มีการดำเนินการเอาผิดกฎหมาย ก.ก.ต.นั้น นายอนุทินฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ตนไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร ทั้งนี้ตนมองว่าคนระดับนักการเมืองที่มีชื่อเสียง มีวุฒิภาวะ มีประสบการณ์เหล่านั้น จะต้องมีความหวังดีต่อบ้านเมืองอยู่แล้ว ดังนั้นจะไปวิพากษ์วิจารณ์กันไม่ได้ ซึ่งเราเชื่ออะไรก็ควรทำให้ดีที่สุดสำหรับองค์กรของเราจะดีกว่า

เมื่อถูกถามว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมแล้วหรือยังสำหรับการเลือกตั้ง นายอนุทินฯ กล่าวว่า สำหรับพรรคภูมิใจไทยพร้อมมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ไม่ได้เลือกตั้งสักที ก่อนที่จะหัวเราะอย่างร่าเริง