สรรพากรกาฬสินธุ์เร่งจัดการระบบเงินบริจาคและภาษีพระ

วันที่ 11 กรกฎาคม 2561 ที่วัดกัลยา ณ บริหาร ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พระเทพปริยัติโมลี รองเจ้าคณะภาค 9 เป็นประธานฝ่ายคณะสงฆ์ ในการประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส อำเภอสามชัย อำเภอคำม่วง อำเภอสมเด็จ อำเภอนามน และอำเภอสหัสขันธ์ ตามมติมหาเถรสมาคม มติที่ 143/2546 ประจำปี 2561 โดยมีพระครูกัลยา ณ ทิวากร เจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ พระครูสิริพัฒนนิเทศก์ รองเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ และคณะสงฆ์ร่วมกว่า 300 รูป โดยมีนางวันเพ็ญ เต็มรัตน์ นายอำเภอสหัสขันธ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

สำหรับการประชุมพระสังฆาธิการ 5 อำเภอ ของจ.กาฬสินธุ์ ครั้งนี้ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้จัดอบรมถวายความรู้ให้กับคณะสงฆ์ ในระบบ E-Donation หรือระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางศุภรรัตน์ รักหะบุตร สรรพากรอำเภอสหัสขันธ์ นายวรสิทธิ์ จอมคำสิงห์ สรรพากรอำเภอสมเด็จ และนางจรรยา จันทร์เพชร สรรพากรอำเภอคำม่วง ร่วมถวายความรู้และลงทะเบียนกับคณะสงฆ์ที่เข้าร่วมกิจกรรม

นางศุภรรัตน์ รักหะบุตร สรรพากร อ.สหัสขันธ์ กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือเรียกว่า E-Donation จะเป็นประโยชน์กับทั้งผู้บริจาคและผู้รับบริจาค ในส่วนของผู้บริจาคทั้งสถานศึกษาและศาสนสถาน ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเก็บเอกสาร เนื่องจากมีข้อมูลทางอิเล็คทรอนิกส์แล้ว และระบบนี้ยังจะยืนยันไปในส่วนของการขอคืนภาษี ที่จะทำให้มีการอนุมัติการขอคืนภาษีให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของผู้รับบริจาคที่มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นจะยิ่งทำให้มีการบริจาคเพิ่มขึ้นมาด้วย ทั้งยังจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับผู้บริจาคมั่นใจได้ว่าเงินทุกบาทจะเข้าสู่ระบบที่ตรวจสอบได้ และสำหรับสถานศึกษาและศาสนสถาน เองก็จะมีความสะดวกสบายในในการจัดการระบบบัญชีได้รวดเร็วมากขึ้น

สรรพากร อ.สหัสขันธ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของ อ.สหัสขันธ์ อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งในพื้นที่ 8 ตำบล มีศาสนสถานทั้งหมด 53 แห่ง โดยได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนและอยู่ระหว่างการขอเลขผู้เสียภาษี และการขอรหัสผู้ใช้งานระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม ทางสรรพากรพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ ได้มีนโยบายอำนวยความสะดวกแด่พระภิกษุสงฆ์ ในการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปยังวัดต่าง ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและดำเนินการทั้งระบบอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งหากมีวัดหรือหน่วยรับบริจาคต้องการขึ้นทะเบียนจะต้องนำหลักฐานที่ประกอบด้วยสำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งสถานศึกษาหรือศาสนสถาน สำเนาหนังสือแต่งตั้งผู้มีอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีอำนาจลงนาม หนังสือมอบอำนาจ และอีเมลล์ สำหรับการยืนยันข้อมูลต่างๆ หากยังสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ใกล้บ้านหรือโทร 1161 คอลเซ็นเตอร์

ทั้งนี้ได้ชี้แจงทำความเข้าใจ การจัดอบรมพระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาส เพื่อเข้าสู่ระบบ E – Donation หรือระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้รียกเก็บภาษีพระตามกระแสข่าวลือ