ศาลฎีกาออกหมายจับ “หมอโด่ง-สุธี คนสนิท ‘เสี่ยเปี๋ยง’คดีระบายข้าวจีทูจี

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ องค์คณะพิจารณารื้อคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในส่วนของจำเลยที่หนีคดี ได้นัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย ในส่วนของ”พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง วัจนะพุกกะ” อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 และ นายสุธี เชื่อมไธสง คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ จำเลยที่ 16 ภายหลังที่ “อัยการสูงสุด” โจทก์ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลนำคดีจำเลยที่ 3 และ จำเลยที่ 16 ที่ตัวหนีไประหว่างการพิจารณาคดีเมื่อปี 2558 ซึ่งอัยการได้ฟ้องไว้พร้อมกับนายภูมิ สาระผล อดีต รมว.พาณิชย์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กับเอกชนร่วม 28 รายในคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 และคดีหมายเลขแดง อม.178/2560 (ศาลตัดสินจำคุกนายภูมิ กับพวกรวม 18 รายไว้แล้วเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 60) ขึ้นมาพิจารณาใหม่โดยไม่มีตัวจำเลย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 ที่ออกมาบังคับใช้แล้ว ซึ่งในมาตรา 28 บัญญัติให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย ภายหลังมีการประทับฟ้องคดีและออกหมายจับจำเลยแล้ว 3 เดือน แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะตั้งทนายความมาดำเนินการแทนตนได้ และไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะมาต่อสู้คดีเมื่อใดก็ได้ ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษา

โดยนายกิตินันท์ ธัชประมุข อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน คณะทำงานที่รับผิดชอบคดีจีทูจี ได้กล่าวว่า ในการยื่นคำร้องขอให้นำคดีของหมอโด่ง จำเลยที่ 3 และนายสุธี จำเลยที่ 16 ขึ้นพิจารณาใหม่ ก็เป็นไปตาม วิ อม.ใหม่ที่บังคับใช้ว่าให้พิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลยได้ ซึ่งนอกจากการยื่นคำร้องในส่วนของคดีอาญาแล้ว ก็ยังมีการยื่นคำร้องในส่วนของคดีแพ่งให้ชดใช้ความเสียหายด้วย โดยในส่วนของหมอโด่ง จำเลยที่ 3 เป็นการออกคำสั่งทางปกครองของกระทรวงพาณิชย์ ส่วนนายสุธี จำเลยที่ 16 ก็มีหน่วยงานที่ได้รับความเสียหายประกอบด้วยกรมการค้าต่างประเทศ , องค์การคลังสินค้า (อคส.) , องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก) , กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงการคลัง เป็นผู้ยื่นคำร้องทางแพ่ง โดยในส่วนของคำร้องแพ่งศาลก็ให้จำเลย ยื่นคำให้การมา หากไม่ยื่นมาตามเวลานัด ก็ให้ถือว่าขาดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้วคดีก็จะดำเนินการต่อไป

ขณะที่วันนี้จำเลยทั้งสอง ก็ไม่ได้มาศาล ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับตามกระบวนการของ วิ อม.ใหม่ และนัดตรวจหลักฐานคดีในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ช่วงเช้า โดยให้ส่งหมายแจ้งวันนัดให้ตามที่อยู่เพื่อให้จำเลยทราบ หากไม่มีผู้รับโดยชอบก็ให้ทำการปิดหมายไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีในส่วนของนายภูมิ กับนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ กับเอกชนนั้น ฝ่ายจำเลยที่ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 4-48 ปี ก็ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว เช่นเดียวกับฝ่ายอัยการสูงสุด ก็ได้ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของจำเลยกลุ่มเอกชน 8 รายที่ยกฟ้องด้วย โดยขณะนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ก็ได้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาแล้ว ขณะที่นายภูมิ กับนายบุญทรง อดีต รมว.พาณิชย์ , เสี่ยเปี๋ยง และเอกชน รวม 18 ราย ที่ถูกตัดสินจำคุกนั้นก็ยังไม่มีใครได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์แต่อย่างใด