‘วิญญัติ’จี้อัยการนำตัว”ตั๊น”-พวกฟ้องศาลเป็นจำเลยคดีกบฏ หวั่นเป็นทริคประวิงซ้ำรอย”บอส”

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ(สกสส.) กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น แนวร่วม กปปส. ที่ได้ยื่นคำขอรับความช่วยเหลือหลักทรัพย์ในการประกันตัวจากกองทุนยุติธรรม ซึ่งล่าสุดนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า กองทุนยุติธรรมแจ้งให้ น.ส.จิตภัสร์ ส่งรายการเสียภาษีย้อนหลัง เพื่อพิสูจน์สิทธิ์ความเป็นผู้ยากจนในการขอรับความช่วยเหลือเงินกองทุนยุติธรรมแต่ไม่มีการติดต่อกลับนั้นเห็นว่า

น.ส.จิตภัสร์ กับพวกอีกหลายคนที่ใช้วิธีการขอเลื่อนนัดต่อพนักงานอัยการอ้างว่าขอรับเงินช่วยเหลือนั้น เป็นเรื่องที่ขัดแย้งต่อความเป็นจริงที่คนทั่วไปเข้าใจเชื่อว่า คนกลุ่มนี้ไม่ได้ยากจน การขอเลื่อนคดีดังกล่าวอาจเป็นเพียงวิธีการประวิงเวลาเพื่อรอกระบวนการทางกฎหมายอื่นๆที่อาจทำให้ไม่ต้องตกเป็นจำเลยในศาล นอกจากนี้ตนได้ตรวจสอบฐานความผิดบางข้อหาเช่น ความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ความผิดฐานบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215,362 ตามลำดับ และความผิดขัดขวางการเลือกตั้งฯ นั้นมีอายุความฟ้องดำเนินคดี 5 ปี นับแต่วันกระทำความผิด ซึ่งในทางสอบสวนและตามคำฟ้องคดีร่วมกันเป็นกบฏ ได้บรรยายวันกระทำความผิดคือ เดือนพฤศจิกายน 2556 ดังนั้นหากอัยการผู้รับผิดชอบไม่ได้ตัวน.ส.จิตภัสร์ กับพวกอีกหลายคนมาฟ้องต่อศาลอาญา ในเร็วนี้ คดีในฐานความผิดเหล่านี้เป็นอันขาดอายุความลง ซึ่งอาจเทียบเคียงกับคดีบอส ทายาเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ไม่สามารถนำตัวมาฟ้องจนคดีขาดอายุความ ไปบางข้อหา ซึ่งก็มีข้อมูลเชื่อว่าพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องในเรื่องบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังถูกสอบสวนทางวินัยและอาจเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ด้วย

กรณีนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำรอยอีก จึงควรเร่งรัดนำตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาส่งฟ้องโดยเร็วทั้งที่สามารถทำได้ทันที และผู้ต้องหาควรมีสำนึกที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อต่อสู้ข้อหาและพิสูจน์ตัวเองอย่างรายอื่นถูกฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้ ย่อมจะมีความสง่างาม ไม่ถูกสังคมตราหน้าต่างๆนานา ก็ควรจะรีบไปพบพนักงานอัยการเสียโดยเร็ว พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ และพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องจัดการเพื่อให้ได้ตัวมาโดยเร็ว เพราะหาตัวไม่ยากอยู่แล้ว

นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า เร็วๆนี้ตนจะไปยื่นหนังสือติดตามทวงถามกับอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เพื่อบอกกล่าวความเสียหายและเพื่อที่จะรวบรวมพยานหลักฐานที่เป็นพฤติการณ์ของพนักงานอัยการประกอบสำนวนที่ตนได้กล่าวหาอัยการสูงสุดต่อ ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งตนจะติดตามและจับตาว่า จะมีผู้ใดสนับสนุนหรือใช้อำนาจเพื่อช่วยผู้ต้องหากลุ่มนี้ให้พ้นผิดและไม่ต้องรับโทษ ขอยืนยันว่าจะเอาผิดตามกฎหมายอย่างแน่นอน