5 เดือนส่งข้าววูบ 10% แต่มูลค่าเพิ่มคาดปีนี้ทะลุ 18,000 ล้าน

เมื่อวานนี้ (23 มิถุนายน 2561) นายฐิติ ลุจินตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด หรือ ข้าวตราฉัตร เปิดเผยว่า ครึ่งหลังปี 2561 ซีพี เอนเตอร์เทรด จะผลักดันให้ส่งออกมากขึ้น โดยจะมุ่งเจาะตลาดค้าปลีก โมเดิร์นเทรดรายใหญ่ ในตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) เช่น วอล์มาร์ท แซมส์คลับ ที่ผู้บริโภคต่างชาติให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า จากเดิมที่การส่งออกของข้าวตราฉัตรจะมุ่งในตลาดคนเอเชียเป็นหลัก โดยข้าวหอมมะลิที่วางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดเหล่านี้จะรับประกันการปลอมปน ต้องเป็นหอมมะลิแท้อย่างน้อย 92% รวมทั้งการส่งออกจะหันกลับมาดีอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก

“ปัจจุบันคนยุโรปและอเมริกาหันมาสนใจข้าวของไทยมากขึ้น หากห้างต่างๆ เหล่านี้ยอมรับไปจำหน่ายจะประกันด้านคุณภาพข้าวของไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้อีกลำดับ ซึ่งข้าวตราฉัตรส่งออกทั้งในรูปแบรนด์ตราฉัตรเอง และ OEM แต่ต้องระบุที่มาว่าเป็นข้าวของไทย”

สำหรับตลาดในข้าวถุงปรับตัวสูงขึ้น หลายฝ่ายคาดว่าขนาด 54 กิโลกรัม (ก.ก.) ต่อถึง จะมีราคาถึง 300 บาทนั้น เป็นไปได้ยากเพราะข้าวในประเทศมีหลากหลายพันธุ์ การปรับขึ้นของราคาจะทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อข้าวชนิดอื่น ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแล้วจากราคาข้าวผสม ระหว่างหอมมะลิ หอมปทุมธานี ได้รับความนิยมมากขึ้น

ส่วนการส่งออกข้าวตราฉัตรในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาปรับลดลงเล็กน้อย 5-10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีข้าว แต่มูลค่าปรับเพิ่มขึ้น เพราะราคาส่งออกดีมาก เทียบกับปี 2560/61 อยู่ที่ตันละ 800-900 ดอลลาร์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ 18,000 ล้านบาท สัดส่วนเป็นรายได้จากการส่งออก 70% และในประเทศ 30%

ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพของข้าวตราฉัตร ตามแผน 5 ปี (2560-64) จะร่วมมือกับเกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีให้ได้ 1.5 ล้านไร่ ทั้งภาคเหนือและอีสาน ทั้งหมดต้องได้รับรอง GAP เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งกระบวนการผลิต ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการนี้ 1.2 แสนไร่ ซึ่งการขยายพื้นที่ทำได้ช้าเพราะเกษตรกรไม่พร้อม และเจ้าหน้าที่รัฐในการรับรอง GAP มีน้อย

นายฐิติ กล่าวว่า ราคาส่งออกข้าวปรับลดลงเล็กน้อย โดยข้าวหอมมะลิจากตันละ 1,200 ดอลลาร์ เหลือ 1,150 ดอลลาร์ ทั้งนี้ เพราะผู้นำเข้ารอข้าวใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ ถือเป็นเรื่องปกติของตลาด แต่ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการตลาดข้าวยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องจึงคาดว่าราคาข้าวหอมมะลิความชื้น 25% ในฤดูกาลใหม่ปี 2561/62 นี้ จะยังอยู่ในระดับตันละ 15,000 บาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา กรณีที่ข้าวมีความชื้นสูงเกษตรกรจะได้รับราคาประมาณตันละ 9,000-10,000 ต่อตัน

“ราคาข้าวในช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นสูงมาก ถึงตันละ 1,300 ดอลลาร์ เนื่องจากผลผลิตในตลาดมีน้อย ในขณะที่สต๊อกข้าวของรัฐไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรมากดราคา อีกทั้งข้าวหอมมะลิของไทยไม่มีคู่แข่ง ทำให้โอกาสเป็นของไทย ซึ่งคาดว่าในปีนี้โดยรวมจะส่งออกได้ประมาณ 2 ล้านตัน”