“ศุภชัย” เมินกระแสดูดอดีตส.ส.อีสาน บอกไม่กระทบพรรค ชี้ หลายคนเป็นส.ส.สอบตก

“ศุภชัย” เมินกระแสดูดอดีตส.ส.อีสาน บอกไม่กระทบพรรค ชี้ หลายคนเป็นส.ส.สอบตก-ไม่เกี่ยวกับพรรคนานแล้ว เชื่อ อำนาจเลือกตั้งอยู่ที่ปชช. แม้เป็นพรรครัฐบาล-ข้าราชการหนุน ก็ไม่มีความหมายในยุคนี้

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มสามมิตรซึ่งประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา เดินสายดูดอดีต ส.ส.ภาคอีสาน โดยเฉพาะอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคภูมิใจไทย เช่น นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีตส.ส.นครราชสีมา เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ ว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้รู้สึกวิตกกังวล เสียใจ หรือเสียดาย นายภิรมย์นั้นเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยครั้งล่าสุดตั้งแต่ปี 2554 และสอบตกในปีนั้น ซึ่งหมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายภิรมย์กับพรรคก็หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ห่างเหิน และไม่ได้มีการติดต่อกัน รวมถึงคนอื่นที่ปรากฏรายชื่ออ้างว่าเป็นคนของภูมิใจไทย เช่น นายปัญญา ศรีปัญญา อดีตส.ส.ขอนแก่น ก็เช่นเดียวกัน ครั้งสุดท้ายเขาก็ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. เพราะฉะนั้น การที่ใครจะตัดสินใจทำงานการเมืองกับพรรครวมพลังประชารัฐหรือกลุ่มสามมิตรถือเป็นเสรีภาพ และไม่มีอะไรการันตีว่าคนเหล่านี้จะได้เป็น ส.ส. เพราะเขาต้องไปแข่งขันอีกมาก ในส่วนพรรคภูมิใจไทยขณะนี้มีผู้เสนอตัวจำนวนมากโดยเฉพาะในจังหวัดนครราชสีมา ดังนั้น เรื่องดูดส.ส.จึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับพรรค

เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวในนามพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคของรัฐบาล ทำให้มีความได้เปรียบกว่าพรรคอื่นที่ยังไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่ นายศุภชัยกล่าวว่า “พรรคพลังประชารัฐก็อาจเป็นความเสียเปรียบก็ได้ สุดท้ายอยู่ที่ว่าประชาชนเข้าคูหาแล้วเลือกใคร ถึงตรงนั้นไม่ว่าตำรวจทหารก็บังคับประชาชนไม่ได้ ปัจจัยเรื่องความได้เปรียบหรือข้าราชการสนับสนุนนั้น ไม่มีความหมายในยุคนี้แล้ว ถึงวันนั้นบุคคลทั้งหลายที่ปรากฏชื่ออาจเปลี่ยนไปสมัครพรรคอื่น วันนี้กลุ่มสามมิตรอาจเข้มข้นคึกคัก แต่ถึงการเลือกตั้งจริงอาจอ่อนล้าลงไป อย่าไปซีเรียส สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ”