เพื่อไทยปูด “ประวิตร” หัวหอก “พลังประชารัฐ” รุกดูดอดีตส.ส.อีสานฝีมือดี

อดีตส.ส.เพื่อไทย แฉ “บิ๊กป้อม” เป็นหัวหอก “พลังประชารัฐ” เดินหน้าดูดอดีตส.ส.อีสานเพื่อไทย ใช้คดีความ-เงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านต่อรอง แง้ม ทีมพลังประชารัฐจ่อลงพื้นที่อีสาน ไม่เกิน 20 มิ.ย.ทุกอย่างจะชัด

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน แหล่งข่าวอดีต ส.ส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกระแสการทาบทามอดีตส.ส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยไปร่วมพรรคพลังประชารัฐ ว่า เรื่องนี้เป็นความจริงและทำกันมานานตั้งแต่หลังการจดแจ้งพรรคพลังประชารัฐ โดยอาศัยบุคลากร 2 ส่วนคือ 1.เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง 2.บุคลากรที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยหรืออดีตไทยรักไทย พลังประชาชน แยกออกเป็นสายริมน้ำ สายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สายนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รุมเร้าด้วยปัจจัยที่พรรคพลังประชารัฐมีความพร้อมมากกว่า 10-15 เท่า รวมถึงอ้างเรื่องการใช้อำนาจเพื่อช่วยเหลือเรื่องคดีความ ซึ่งไม่ใช่คดีเกี่ยวกับพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อย โดยมุ่งดึงอดีตส.ส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นส.ส.แบบเขตเกรดเอหรือแถวหนึ่ง ไม่เว้นใครแม้แต่คนเดียว แม้แต่ตนเองก็เคยถูกทาบทาม ส่วนส.ส.แถวสองแถวสามจะไม่ค่อยได้รับความสนใจ มีนายทหารระดับสูงคนหนึ่งที่คลุกคลีในภาคอีสาน อาศัยความสนิทและตำแหน่งหน้าที่ไปพูด ทำให้บางคนที่ไม่หนักแน่นพอ ต้องตัดสินใจออกจากพรรคไปด้วยความจำเป็น

แหล่งข่าวระบุต่อไปว่า คนในรัฐบาลที่เป็นหัวหอกอยู่เบื้องหลังของพรรคพลังประชารัฐ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยนายสมคิดจะเป็นหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์เป็นเลขาธิการพรรค ทำหน้าที่เป็นแม่งาน รับหน้าเสื่อ เงินทองไม่อั้น โดยในสัปดาห์หน้า มีการนัดหมายว่าจะลุยภาคอีสาน พบปะผู้คน คาดว่าวันพุธที่ 20 มิถุนายนหรือก่อนหน้านั้นจะมีความชัดเจน

“พลังประชารัฐมาแรงกว่าทุกพรรค อดีตส.ส.เพื่อไทยคนใดที่มีคดีในภาคอีสาน ตอนนี้ไปหมดแล้ว เขามีรายละเอียดชัดเจนว่าใครมีความสามารถอะไร มีฐานะอย่างไร มีคดีความอะไร เขาทำมานาน พล.อ.ประวิตรบอกว่า พลังประชารัฐเป็นพรรคของใคร ตัวเองน่ะตัวการแท้ๆ ตลอดชีวิตทางการเมืองหลายสิบปีไม่เคยเจอสิ่งที่อำมหิตขนาดนี้ ไม่เคยมีปรากฏการณ์อย่างนี้มาก่อน เช่น บอกว่าคุณอาจจะไม่ปลอดภัย อาจโดนใบเหลืองใบแดง ข่มขู่ว่าจะรอดพ้นถ้าไปอยู่กับพรรคของเขา แต่ละคนมีราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป โดยเฉพาะคนที่จะออกจากพรรคเพื่อไทย จะมีค่าตัวสูง เพราะถือว่าเป็นคนที่ต้องออกมาต่อสู้กับกระแส เพราะกระแสในภาคอีสานเกลียดทหารกันมาก ”

แหล่งข่าวกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐใช้ความพยายามสูงที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งในส่วนพรรคเพื่อไทยประเมินว่าหากนับเฉพาะภาคอีสาน บุคคลที่พรรคมีอยู่ในตอนนี้ทำให้ค่อนข้างมั่นว่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ไม่ขอพูดถึงการได้เป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เพราะการสร้างเป้าหมายไม่ใช่การประกาศเป็นรัฐบาลอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง ถ้าผลออกมาว่าเรามีเสียงไม่พอ เราก็เป็นฝ่ายค้าน แต่ถ้าผลเลือกตั้งถล่มทลายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กว่าจะเป็นรัฐบาลได้ต้องผ่านอีกเยอะ เพราะมีด่านส.ว.250 คนที่ยืนขวางอยู่ ดังนั้น พรรคพร้อมเป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้น ตนเชื่อว่าจะไม่แจ้งเกิดไม่ว่าในภาคใต้ กรุงเทพฯ หรือภาคเหนือ และในภาคอีสานจะไม่ได้เลย ตัดพรรคนี้ทิ้งได้เลย

แหล่งข่าวกล่าวถึงสถานการณ์ในพรรคเพื่อไทยขณะนี้ว่า จุดยืนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนในพรรคที่สวมหัวโขนอยู่ก็มี บางคนที่คุยเสียงดังๆ ออกปากว่าไม่ว่าจะได้รับการเสนอเงินเท่าไรก็จะไม่ออกจากพรรคนั้น แต่สุดท้ายก็จะไปโผล่ที่อื่น ความจริงจะปรากฏ ตนเชื่อว่าหลายคนที่ออกไปจะสอบตก ยิ่งมาขายตัวเปลี่ยนพรรคแบบหวือหวาอย่างนี้ เปรียบเหมือนบ้านเราถึงแม้จะถูกไฟใหม้ น้ำใจที่ต้องตักขันน้ำสักขันไปสาดเพื่อดับไฟนั้นจำเป็น แต่บ้านเรายังอยู่เงียบๆแล้วคุณกระโดดหนี ก็เจอกันในสนามเลือกตั้งแน่