สวนดุสิตโพลเผย ปชช.ไม่เชื่อ รบ.ปราบทุจริตได้ สนใจข่าวโกงอาหารกลางวันนร.มากสุด

สวนดุสิตโพลเผย คนสนใจข่าวทุจริตอาหารกลางวันเด็กนักเรียนมากที่สุด ร้อยละ 68.35 ชี้เหตุทุจริตเกิดจากความละโมบ เชื่อแก้ไขไม่ได้เพราะหยั่งรากลึกมานาน ผู้มีอำนาจมีเอี่ยวแก้ไขยาก

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ข่าวการทุจริต” โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 1,122 คน ระหว่างวันที่ 12-16 มิถุนายน 2561 ในเรื่อง ข่าวการทุจริตในช่วงนี้มีหลายคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งการทุจริตในแวดวงราชการ หรือวงการสงฆ์ ต่างชี้ให้เห็นถึงปัญหาสำคัญที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมานาน และยังคงมีให้เห็นอยู่เสมอ สรุปผลได้ ดังนี้

ทั้งนี้ 5 อันดับ “ข่าวการทุจริต” ที่ประชาชนสนใจมากที่สุด อันดับ 1 อาหารกลางวันเด็กนักเรียนร้อยละ 42.03 อันดับ 2 เงินทอนวัดร้อยละ 40.00 อันดับ 3 เงินคนจน เบี้ยผู้สูงอายุ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งร้อยละ 37.00 อันดับ 4 การใช้งบประมาณแผ่นดินของรัฐบาล งบโครงการต่างๆ ร้อยละ 21.06 และอันดับ 5 การทุจริตต่างๆ ในกระทรวงศึกษาธิการ เช่น คุรุภัณฑ์ นมโรงเรียน กองทุนเสมาร้อยละ 20.68

ด้าน “สาเหตุการทุจริต” นั้น ประชาชนร้อยละ 68.35 มองว่า เกิดจากกิเลส โลภ ละโมบ ความเห็นแก่ตัว ร้อยละ 28.42 มองว่า ระบบการตรวจสอบมีช่องโหว่ ไม่รัดกุม เจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ ส่วนร้อยละ 19.30 เชื่อว่า ไม่เกรงกลัวกฎหมาย บทลงโทษไม่รุนแรง ร้อยละ17.11 มองว่า สังคมเปลี่ยนแปลง มีสิ่งยั่วยุมากขึ้น ค่านิยมผิดๆ และร้อยละ 14.83 มองว่า เงินเดือนน้อย เศรษฐกิจไม่ดี เงินไม่พอใช้

สำหรับ “วิธีการป้องกันการทุจริต” สวนดุสิตโพลทำการสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 45.79 เชื่อว่า ปลูกฝังค่านิยม เน้นความซื่อสัตย์ จิตสำนึกที่ดี จะช่วยป้องกันการทุจริตได้ ส่วนร้อยละ 38.81 มองว่า หากกฎหมายต้องใช้ได้จริง ไม่สองมาตรฐาน บทลงโทษรุนแรงสามารถป้องกันได้ ร้อยละ 31.21 มีมาตรการป้องกันและระบบการตรวจสอบที่รัดกุม ร้อยละ 21.77 ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกัน สอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา และ 13.24 เชื่อว่า นักการเมือง ข้าราชการ ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก

ส่วนประชาชนคิดว่า รัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาทุจริตในปัจจุบันได้หรือไม่ ร้อยละ 47.50 เชื่อว่า แก้ไขไม่ได้ เพราะการทุจริตเกิดขึ้นมานานและมีอยู่ทุกวงการ แก้ไขได้ยาก สังคมเสื่อมโทรม คนมีค่านิยมในทางที่ผิด มีตัวอย่างที่ไม่ดีให้เห็น ผู้มีอำนาจมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง ดำเนินคดีได้ยาก ฯลฯ ส่วนร้อยละ 32.54 ไม่แน่ใจ เพราะปัญหาการทุจริตมีทุกที่ มีทั้งที่แก้ไขได้และไม่ได้ อาจดูแลไม่ทั่วถึง ต้องใช้เวลานาน รอติดตามการทำงานต่อไป ขณะที่ร้อยละ 19.96 เชื่อว่าแก้ไขได้ เพราะ รัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาด หากตั้งใจจริงก็สามารถทำได้ ที่ผ่านมามีผลงานการปราบปรามการทุจริตให้เห็น ถ้ามีมาตรการเด็ดขาดกวาดล้างอย่างจริงจัง น่าจะทำให้การทุจริตลดลงได้

สุดท้ายประชาชนได้ “บทเรียน” อะไรจากข่าวทุจริต ณ วันนี้ ร้อยละ 51.87 มองว่า เป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทย ฝังรากลึก แก้ไขได้ยาก ส่วนร้อยละ 33.38 มองว่า การบังคับใช้กฎหมายยังอ่อนแอ ไม่รุนแรง ขณะที่ร้อยละ 27.07 เชื่อว่า การทุจริตเกิดขึ้นได้ทุกวงการ ทุกฝ่ายต้องหันมาช่วยกันแก้ไข ร้อยละ 20.53 ทำให้ภาพลักษณ์วงการราชการเสื่อมเสีย ถดถอย ส่วนร้อยละ 17.87 มองว่า คนขาดคุณธรรมจริยธรรม ต้องเร่งสร้างจิตสำนึก