“ชูศักดิ์”ลั่นปัญหาเลือกตั้งทั้งหมดอยู่ที่คสช.เอง ออกคำสั่งล็อกได้ ก็ต้องปลดล็อกได้

“ชูศักดิ์” ชี้ ปัญหาการลต.ทั้งหมดอยู่ที่ คสช. เอง อัด ออกคำสั่งล็อกได้ก็ต้องปลดล็อกได้ พร้อมเผย “เพื่อไทย” มีนโยบายแก้รธน.

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ กรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้แถลงผลการประชุมร่วมกัน ระหว่าง กรธ. กกต. และ สนช. เพื่อคลี่คลายปัญหา อันเกิดจากกฎหมายพรรคการเมือง และคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 เพื่อแก้ปัญหาให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินการต่างๆ ได้อย่างไม่มีอุปสรรคและนำไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ตามโรดแมป โดยสรุปว่ามีการตั้งประเด็น 4 ปัญหา อาทิ การประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง การตั้งสาขาพรรคการเมือง การแบ่งเขตเลือกตั้ง และการบริหารจัดการ โดยเสนอสามแนวทางออก โดยอาจออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือใช้มาตรา 44 และกล่าวว่าจะคลายล็อคมิใช่ปลดล็อกทั้งหมด โดยสุดแต่ คสช. จะเลือกแนวทางใด ว่า โดยส่วนตัวยังคงยืนยันความเห็นว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวในที่สุดจะเป็นปัญหาวัวพันหลัก แก้ปัญหาหนึ่งไปเจอปัญหาหนึ่ง เกี่ยวพันกันไปหมดเพราะเกี่ยวโยงถึงรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้งและคำสั่งคสช. ต้องยอมรับว่า ต้นเหตุของปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่า คสช. ได้ใช้อำนาจก้าวล่วงไปแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยใช้อำนาจพิเศษตาม มาตรา 44 แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าสามารถจะทำได้ และวินิจฉัยว่าคำสั่งที่ 53/2560 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกคำสั่งดังกล่าวถือเป็นปมปัญหาที่ทำให้เกิดเหตุต่างๆตามมาจนต้องเป็นปัญหาลิงแก้แหในที่สุด และแสดงได้ชัดเจนว่า คสช. มีความต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งตั้งแต่แรก ดังนั้น จะแก้ปัญหาอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ตนเองเชื่อว่าอย่างไรเสียก็คงยากลำบาก และไม่สามารถขจัดอุปสรรคได้หมด เอาไปเอามาระวังจะเป็นสาเหตุให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก ยิ่งจะเกิดความวุ่นวายหนักเข้าไปอีก ตนเองจึงเห็นว่าปัญหาใหญ่อยู่ที่ตัว คสช. เองว่าถึงขณะนี้ ท่านยึดอำนาจมา 4 ปีแล้ว บริหารประเทศแบบใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ ถือการใช้อำนาจและมองมิติทางด้านความมั่นคงเป็นหลัก แม้ขณะนี้รองนายกรัฐมนตรียังใช้คำว่า คลายล็อค มิใช่ปลดล็อค แสดงโดยนัยยะให้เห็นว่าท่านไม่ต้องการปลดล็อคทางการเมืองแบบเบ็ดเสร็จ ถึงเวลานี้ คสช. จึงต้องทบทวนและตัดสินใจว่าจะให้สภาพของบ้านเมืองพันธนาการไปด้วยล็อคทั้งหลาย และปิดกั้นสิทธิเสรีภาพผู้คนไปอีกนานเท่าไหร่ และควรตระหนักได้แล้วว่า นี้คือปัญหาอันดับต้นๆ ที่ทำให้สังคมภายนอกเขาไม่ยอมรับ ปฏิเสธที่จะทำอะไรด้วย ดังนั้นที่พรรคการเมืองเสนอคือปลดล็อคเสียโดยเร็ว ไม่ใช่คลายล็อคเป็นเรื่องๆไป ทางออกที่แก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุดไปได้เร็วที่สุด ตนขอยืนยันว่า คือการยกเลิกคำสั่งที่ 53/2560 และคำสั่งที่เป็นล็อกทั้งหลายเสีย คสช. ออกคำสั่งได้ก็ต้องยกเลิกได้ โดยไม่ต้องใช้ปาฏิหาริย์ทางกฎหมายใดๆเลย

เมื่อถามถึงกรณีจากการอภิปรายของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องการประกาศแก้นัฐธรรมนูญ 60 ตรวนี้พรรคพท.จะประกาศออกมาเป็นนโยบายเลยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อธิบายได้ว่าเราเห็นร่วมกันว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหา ทั้งการถดถอยประชาธิไตยไปมาก ระบบเลือกตั้งที่ทำให้เกิดรัฐบาลที่อ่อนแอ ทำงานไม่ได้ ต้องการให้มีคนนอกมาบริหารประเทศ สร้างพันธนาการประเทศไว้แบบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแทบจะทำนโยบายใดๆไม่ได้เลย เราจึงเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่จากการศึกษาพบว่าเขาเขียนรัฐธรรมนูญไว้เหมือนว่าจะแก้ไม่ได้เลย เช่นต้องให้ส.ว.เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1ใน 3 ต้องให้ฝ่ายค้านเห็นด้วยไม่น้อยกว่า 20% เกือบทุกเรื่องต้องทำประชามติ อาจจะพูดได้ว่าผูกเงื่อนตายไว้เลยก็ว่าได้ เราจึงบอกว่าคงต้องหาจุดร่วมของหลายๆฝ่าย ทั้งพรรคการเมืองและประชาชน และหากมีเงิ่อนไขต้องทำประชามติก็ต้องทำ สรุปว่าเรามีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญและจะทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้