เล็งเลิกบริษัท 6,309 ราย ไม่ส่งงบการเงินต่อเนื่อง3 ปี พณ.ห่วงใช้หลอกลวงประชาชน

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตามที่ปรากฎในหน้าข่าวทางสังคมว่า มีนิติบุคคลบางกลุ่มที่จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจอย่างถูกต้องจริง แต่เวลาต่อมาไม่ได้ปฏิบัติตน  ในหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อโดยเอาความน่าเชื่อถือของการจดทะเบียนนิติบุคคลมาแอบอ้าง จนเกิดความเสียหายต่อบุคคลที่หลงเชื่อ และยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศตามมา

ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2561 กรมจะดำเนินการถอนทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครออกจากทะเบียน 6,309 ราย เนื่องจาก ไม่นำส่งงบการเงิน’ ย้อนหลังนานติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี (ปีงบการเงิน 2559-2557) เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน สร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูล และป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆส่วนนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดดำเนินการในแนวทางเดียวกัน

สำหรับนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดออกจากทะเบียน กรมฯ ได้ใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐานใน 3 ประเด็นคือ 1. นิติบุคคลที่ไม่นำส่งงบการเงินต่อกรมฯ เพื่อแสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินกิจการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นับตั้งแต่ปีปัจจุบันย้อนหลังไป 3 ปีติดกัน

2. นิติบุคคลไม่มีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ตามที่จดทะเบียนไว้ และ 3. นิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี ส่งผลให้ชื่อของนิติบุคคลนั้นยังคงค้างอยู่ในฐานข้อมูลทะเบียนของกรมฯซึ่งทำให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกับจำนวนนิติบุคคลที่ยังมีตัวตนอยู่ในปัจจุบัน มากไปกว่านั้นอาจส่งผลต่อประชาชน ผู้ร่วมค้า หรือผู้ร่วมลงทุนที่อาจเข้าใจผิดว่านิติบุคคลเหล่านั้นยังคงดำเนินธุรกิจอยู่ และก่อให้เกิดความเสียหายจากการทุจริตหลอกลวงตามมา

ทั้งนี้ แม้นิติบุคคลที่มี ‘สถานะร้าง’ จะสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลไปแล้วแต่ความรับผิดชอบยังคงมิได้สิ้นสภาพตามไปด้วย รวมไปถึงนิติบุคคลอาจฟื้นคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน

กรมฯ ในฐานะเป็นนายทะเบียนตามกฎหมายมีอำนาจถอนทะเบียนนิติบุคคลที่มิได้ทำการค้าเป็นห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทร้างแล้วแต่กรณี โดยจะมีการประกาศชื่อนิติบุคคลที่ถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนบนเว็บไซต์     โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่www.dbd.go.th นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนทั่วไปสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลเพื่อความรอบคอบก่อนการลงทุนหรือดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้ง่ายๆ ด้วยตนเองผ่านได้ 3 ช่องทาง 1) สายด่วน 1570 2) www.dbd.go.th หัวข้อ คลังข้อมูลธุรกิจ และ 3) ดาวน์โหลด Application ‘DBD e- Service’ ผ่านโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็คสถานะนิติบุคคลได้ตลอด 24 ชั่วโมง