เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พุทธมณฑล จ.นครปฐม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) เสด็จเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยมีคณะกรรมการ มส. อาทิ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร, สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม, สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส เป็นต้น เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

นายณรงค์ ทรงอารมณ์ รองผู้อำนวยการ พศ.ในฐานะโฆษก พศ. และนายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการ มส.ในฐานะรองโฆษก พศ.ร่วมกันแถลงข่าวกรณีผู้อำนวยการ พศ.มีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ เกี่ยวกับการวางระบบการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัด ว่า หนังสือดังกล่าวไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทอนวัด แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อขอทราบแนวทางปฏิบัติได้จริง หลักการคือ ภิกษุสงฆ์ไม่ต้องมาถือเงิน แต่ผ่านบัญชีส่วนกลาง เพื่อให้วัดที่ยังไม่ได้ดำเนินการนำไปพิจารณาปรับใช้ และปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยต่อไป ทั้งนี้ พศ.ต้องการหาวัดตัวอย่างที่พระไม่จับเงิน ซึ่งเป็นไปตามพระวินัยปิฎกที่พระพุทธเจ้าบัญญัติสิกขาบทไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่ให้พระภิกษุรับ ใช้ให้คนอื่นรับ หรือแม้กระทั่งยินดีในเงินทองที่เขาเก็บไว้ให้ตน รวมถึง อะไรก็ตามที่มีค่าในการแลกเปลี่ยน ซื้อ ขายได้ เช่น ธนบัตร เหรียญ เช็ค บัตรกดเงินสด บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต การรับเงินทอง จึงเป็นการผิดพระวินัย และเป็นอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ แก่พระภิกษุที่รับ ไม่ว่าจะโดยเหตุผลใดๆ เช่น การรับเพื่อตัว หรือเพื่อสงฆ์ก็ตาม ทั้งหมดนี้คือวัตถุประสงค์ที่ออกหนังสือไป ไม่ได้มีเจตนาอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องการออกหนังสือดังกล่าวได้หารือกับคณะสงฆ์โดย มส.แล้วหรือไม่ นายณรงค์กล่าวว่า ไม่มีการออกระเบียบ และเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นเพียงการหาวัดตัวอย่าง ถ้าจังหวัดใดมีวัดตัวอย่างลักษณะนี้ ก็ให้รายงานเข้ามา ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เพื่อให้วัดต่างๆ ได้นำไปเป็นแบบอย่าง ต้องการให้วัดมีประสิทธิภาพ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของพระธรรมวินัย เหตุใดจึงไม่หารือกับคณะสงฆ์ก่อนออกหนังสือดังกล่าว นายณรงค์กล่าวว่า ขอยืนยันเหมือนคำตอบแรก เราต้องการหาวัดตัวอย่าง แต่ที่อ้างพระธรรมวินัย ต้องการสื่อให้ถึงวัดว่าพระธรรมวินัยว่าเช่นนี้ ให้ไปอ่านดู

ผู้สื่อข่าวรถามต่อว่า คณะสงฆ์มีข้อโต้แย้งกับเรื่องหนังสือดังกล่าวหรือไม่ นายณรงค์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีคำตอบ และไม่ทราบ ยืนยันตามที่ได้แถลง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากยึดตามข้อแถลงที่ พศ.กล่าวอ้างถึงพระธรรมวินัยแล้ว จะทำความเข้าใจประชาชนอย่างไร ต่อไปประชาชนจะถวายเงินพระได้หรือไม่ นายณรงค์กล่าวว่า ไม่ได้บังคับ ให้ไปอ่านในหนังสือที่ตนได้แถลงไป เมื่ออ่านจะได้เข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า พศ.มีอำนาจในการออกหนังสือดังกล่าวหรือไม่ นายณรงค์กล่าวว่า ขอไม่ตอบ ให้อ่านตามที่แถลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายณรงค์ขอตัวออกจากห้องแถลงข่าวทันที ขณะที่นายสิปป์บวรปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีมีรายชื่อ 3 สมเด็จพระราชาคณะในกรรมการ มส.ที่อาจจะถูกตรวจสอบเรื่องเงินทอนวัด

ด้านพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส ในฐานะประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่ พศ.ทำหนังสือดังกล่าว ก่อนจะแถลงว่าเป็นเพียงการค้นหาวัดต้นแบบเพื่อจัดวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัดเท่านั้น เป็นเพียงการแถลงของ พศ.เพียงฝ่ายเดียว ส่วนการปฏิบัติเป็นอีกเรื่อง ซึ่งศูนย์พิทักษ์ฯ และคณะสงฆ์ จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพื่อดูขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมของ พศ.ต่อไป