‘อนาคตใหม่’ ร้องเจ้าหน้าที่รัฐหยุดคุกคามผู้ร่วมประชุมพรรค หลังพบเข้าข่มขู่ถึงบ้าน

วันที่ 4 มิถุนายน 2561 เมื่อเวลา 21.32 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคอนาคตใหม่ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐยุติการคุกคามผู้มาร่วมประชุมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ โดยแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา มีการประชุมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต การประชุมครั้งนี้เป็นไปเพื่อให้ผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรคกว่า 700 คน มาร่วมลงมติรับรองอุดมการณ์ หลักการ แนวนโยบาย ข้อบังคับ และเลือกกรรมการบริหารชุดแรกตามขั้นตอนทางกฎหมาย และเพื่อตอกย้ำความเป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม และนโยบายกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นแนวนโยบายหลักของพรรค สมาชิกก่อตั้งที่มาร่วมประชุม จึงมาจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมถึงมีเครือข่ายแรงงานและเยาวชนคนหนุ่มสาว

“นอกจากนี้ ในการประกาศอุดมการณ์ แนวทาง และการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้นำพรรคและตัวแทนเครือข่ายต่าง ๆ ซึ่งมีขึ้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พรรคได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงาน ซึ่งปรากฏว่ามีคนหลากหลายอาชีพ วัย และภูมิภาค เข้าร่วมรวมเป็นจำนวนกว่า 3,000 คน มีผู้ติดตามชมการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์และชมย้อนหลังรวมกว่า 160,000 คน ซึ่งแสดงถึงความต้องการมีส่วนร่วมทางการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่ อันเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ” แถลงการณ์ระบุ

อย่างไรก็ตาม กลับปรากฏว่าในวันงาน นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยตามปกติ ยังมีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมากที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ปะปนกับผู้ชมงาน บันทึกภาพบรรยากาศอย่างละเอียด รวมถึงตามถ่ายภาพทะเบียนรถที่จอดอยู่รอบ ๆ ยิมเนเซียมที่จัดการประชุม และหลังจากนั้นไม่กี่วัน สมาชิกก่อตั้งของพรรคอนาคตใหม่จำนวนมาก ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปถึงบ้าน และข่มขู่คุกคามให้หวาดกลัว

พรรคอนาคตใหม่ระบุว่า การกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของประชาชน ยังละเมิดสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งแม้ปัจจุบันจะไม่สามารถทำได้เนื่องจากขัดคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 แต่ในเมื่อพรรคอนาคตใหม่ได้รับอนุญาตให้จัดการประชุมพรรค สมาชิกก่อตั้งของพรรค จึงย่อมมีสิทธิ์เดินทางไปร่วมประชุมเพื่อให้การจัดตั้งพรรคลุล่วงตามขั้นตอนทางกฎหมาย เช่นเดียวกับที่พรรคอื่น ๆ ได้ทำไปแล้วหลายพรรค

“พรรคอนาคตใหม่ขอยืนยันว่าสมาชิกผู้ร่วมจดจัดตั้งพรรคทุกคนที่เดินทางมาร่วมประชุมในวันที่ 27 พฤษภาคม มาด้วยความกระตือรือร้น ความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมทางการเมือง ต้องการให้การเมืองไทยกลับมาเป็นเรื่องของประชาชน กำหนดโดยประชาชน เพื่อประชาชนอีกครั้ง มิได้กระทำการใดอันละเมิดด้วยกฎหมาย ทั้งกฎหมายปกติ และคำสั่งคสช.” แถลงการณ์ระบุและว่า ด้วยเหตุนี้ พรรคอนาคตใหม่จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐ ยุติการกระทำอันลุแก่อำนาจ ล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพพลเมือง และให้ปฏิบัติกับพรรคการเมืองทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน ปล่อยให้พรรคการเมืองและประชาชนทุกคนทำกิจกรรมต่าง ๆ อันพึงมีในระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมาถึงเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามหลักสากล

รักษาการคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่

จากการสอบถาม น.ส.พรรณิการ์ วานิช ว่าที่โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ทราบว่า จากการสอบถามสมาชิกพรรคที่ได้รับผลกระทบนั้น พบว่าเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าไปติดตามถึงบ้านสมาชิกพรรคในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือและอีสานที่มีรายงานเจ้าหน้าที่รัฐติดตามถึงบ้านมากที่สุด รวมถึงเครือข่ายเยาวชนยังไม่พ้นการคุกคาม

“เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาในบ้านของสมาชิกพรรค และพูดในลักษณะเชิงข่มขู่กดดันว่า การเข้าร่วมประชุมพรรคเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งๆที่พรรคอนาคตใหม่ได้ทำหนังสือขออนุญาตจัดประชุมพรรคกับ คสช. จนได้รับอนุญาตให้จัดประชุมพรรค” น.ส.พรรณิการ์ ระบุ

ขณะที่ พล.ท.พงศกร รอดชมพู ว่าที่รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ช่วงนี้สมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ถูกคุกคาม ขอเตือนไปยังผู้เป็นเจ้าหน้าที่ว่า ความสงบ เรียบร้อย เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เป็นสิ่งที่คนไทยประสงค์ ใครวอน ก่อความวุ่นวาย สร้างความขัดแย้งสนองตัณหานาย ขอให้ปกปิดตัวตนให้ดีนะครับ อย่าเปิดตัว จะหาว่าไม่เตือน

ป.ล. ช่วงนี้เราต้องตามหาคนหายกันบ่อยๆครับ

ทั้งนี้ ในช่วงการประชุมพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แม้จะมีการให้่ลงทะเบียนในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐและจัดที่นั่งเฉพาะเพื่อสังเกตการณ์ในช่วงประชุมลงคะแนนเสียงเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคในช่วงเช้า แต่ยังมีเจ้าหน้าที่บางส่วนนั่งปะปนในส่วนผู้สังเกตการณ์ที่เป็นประชาชนทั่วไปพร้อมกับถ่ายรูปและบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วย

พอเข้าสู่ช่วงภาคบ่าย ก่อนที่จะมีการขึ้นแถลงวิสัยทัศน์ต่อสาธารณชน เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบหลายคนได้เดินปะปนกับผู้ร่วมงาน ทำการบันทึกภาพผู้เข้าร่วมประชุมทั้งภาพกว้างและภาพเจาะรายบุคคล รวมถึงเก็บภาพข้อความที่พรรคอนาคตใหม่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมเขียนความต้องการว่าอยากเห็นนโยบายอะไร โดยใช้อุปกรณ์ตั้งแต่กล้องสมาร์ทโฟนไปจนถึงกล้อง DSLR ติดเลนส์ซูมสำหรับภาพเจาะจากระยะไกล ไม่เพียงเท่านี้ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบได้แฝงตัวปะปนกับสื่อมวลชนเข้ามาเก็บข้อมูลในช่วงแกนนำพรรคตอบคำถามสื่อมวลชนหลังจบงานประชุมพรรคอีกด้วย