‘เอกนิติ’เร่งสรรพากรปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล เป้าเก็บภาษี2 ล้านล. จ่อภาษีแวตเข้าครม.

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ว่า ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมสรรพพากร มีเป้าหมายจัดเก็บภาษีปีงบประมาณ 2562 ที่ 2 ล้านล้านบาท จากปี 2561 คาดได้ตามเป้าหมาย 1.86 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นเป้าที่ท้าทายแต่สำหรับสรรพากรยุคดิจิทัล จะมีการพัฒนาบิ๊กดาต้าในหน่วยงานและเชื่อมโยงกับหน่วยงานรัฐอื่นๆ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรามแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย เป็นต้นและนำดาต้าอนาไลติกส์มาใช้วิเคราะห์คาดการณ์การจัดเก็บภาษี ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีและขยายฐานภาษี รวมทั้งจะพัฒนาต่อยอดนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ภายในปี 2563

ทั้งนี้ จะร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับสภาวิชาชีพบัญชี ผู้สอบบัญชี รวมทั้ง เพื่อให้ธุรกิจมีการทำบัญชีให้ถูกต้อง และเป็นบัญชีเดียวเพราะบัญชีเดียวจะช่วยให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ส่วนกรณีธุรกิจที่ผู้หลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงบริษัทและผู้สอบบัญชีที่ช่วยหลีกเลี่ยงบัญชีจะเอาผิดตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และเร่งรัดติดตามอากรค้างจ่ายที่มีอยู่กว่าแสนล้านบาทด้วย

พร้อมทั้งจะยกระดับบริการประชาชน โดยเปลี่ยนกระบวนการทุกอย่างเป็นดิจิทัลและเน้นใช้อิเล็กทรอนิกส์ มีแผนเปิดให้ผู้ประกอบการหรือธุรกิจที่พัฒนาระบบหรือแพลตฟอร์มให้การยื่นภาษีง่ายขึ้น นำแชทบอทมาให้บริการถามเรื่องภาษี  เป็นต้น

“สรรพากรยุคดิจิทัล เพิ่มประสิทธภาพการจัดเก็บและขยายฐานภาษี และผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรม ต้องเปลี่ยนจากยักษ์ เป็นยิ้มเหมือนอธิบดี รวมทั้งมีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ บริการดีกับประชาชน”

สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)นั้น แวตจะเป็นเท่าไรขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ส่วนกระแสจะขึ้นแวตเป็น 9% นั้น ไม่เป็นความจริง ตามทฤษฎีขึ้นแวตเมื่อประะเทศเจอวิกฤตเศรษฐกิจ หรือเพื่อชะลอจังหวะที่เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว โดยจะเสนอกรอบภาษีแวตให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ต่อไป ส่วนการเก็บภาษีธุรกิจข้ามชาติ อยู่ระหว่างการดำเนินการ