“อ๋อย”จวก แถลงข่าวไม่ใช่อาชญากรรม ชี้ ตร.ตั้งข้อหาเกินกว่าเหตุ รวบรัด ขาดการวิเคราะห์

“อ๋อย” ชี้ การกระทำของตร.เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเกินกว่าเหตุ-รวบรัด-ขาดการวิเคราะห์-สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย บอก ไม่มีประเทศปชต.ไหนในโลกที่การแถลงข่าวเป็นอาชญากรรม แจง 8 แกนนำ จะให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายหลัง

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่กองปราบปราม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ว่า วันนี้แกนนำทั้ง 8 คน ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวกรณีที่คสช.ได้แจ้งความดำเนินคดีชุมนุมเกิน 5 คน ฝ่าฝืนมาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งกระบวนการก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม เราพบว่าการแจ้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนในครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่รวบรัด ไม่มีการสืบหาหรือวิเคราะห์หลักฐานอย่างเพียงพอ แต่กลับตั้งข้อหาร้ายแรงเกินจริง อย่างไรก็ตาม ในการให้การวันนี้เราปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และบางส่วนได้ให้การไปบ้างที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อข้อกล่าวหา แต่ส่วนที่เหลือทุกคนจะทำเป็นลายลักษณ์อักษรให้การในภายหลัง ซึ่งจะดำเนินการในระยะเวลา 30 วัน ตามกรอบกฎหมาย ทั้งนี้ ทราบดีว่าเป็นความจำเป็นของพนักงานสอบสวน แม้แต่พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ก็รู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกตนเป็นความไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ ยืนยันว่าการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของแกนนำ ทั้งข้อความ และเนื้อหา ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน หรือมั่วสุมแต่อย่างใด เนื้อหาไม่ได้ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเกิดความกระด่างกระเดื่อง ดังนั้น ยืนยันว่าตำรวจไม่ควรตั้งข้อกล่าวหาใดๆได้เลย

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ตนได้พูดในห้องประชุมว่าในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว บ้านเมืองมีหลักนิติธรรม ไม่ควรเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นต้นทางของความยุติธรรมต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต้องไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ ที่เราได้ฝากความห่วงใยคือ ต้องไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้กับประชาชนทั่วไป เพราะหากเกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปก็จะเกิดความไม่เป็นธรรมอย่างร้ายแรง และทำให้ประชาชนไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใคร ตนได้แจ้งให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ทราบไปแล้ว และต้องขอขอบคุณพล.ต.อ.ศรีวราห์ที่บอกว่าอยากให้พวกเราสื่อสารเรื่องดังกล่าวกับสังคมให้มากๆ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าท่านต้องการจะบอกใบ้อะไร

“ในส่วนที่พนักงานสอบสวนบอกว่าไปหาหลักฐานมาแล้วตามสมควร เป็นการพูดตามภาษากฎหมาย แต่เมื่อเราดูเอกสารที่ให้ลงนาม พนักงานสอยสวนไม่ได้มีการวิเคราะห์อะไร นอกจากอาศัยข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน เหมือนกับเห็นตามคนที่มาแจ้งความทั้งหมด ไม่มีการวิเคราะห์ หรือจำแนกแยกแยะ เช่น เรียกการแถลงข่าวว่าการชุมนุมทางการเมือง พูดถึงเนื้อหาการแถลงข่าวว่าเป็นเท็จ ทำให้เป็นความผิดตามมาตรา 116 ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะดำเนินการในระยะเวลาสั้นๆ” นายจาตุรนต์ กล่าวว่า

เมื่อถามว่า จะดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เป็นอีกขึ้นตอนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตำรวจทำในวันนี้ล่อแหลมต่อการทำผิดกฎหมายทั้งนั้น เป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ทำให้เป็นภาระ สร้างความเดือดร้อนให้พวกตนทั้งที่ไม่มีเหตุตั้งข้อกล่าวหาได้เลย

เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการใช้มาตรา 116 ปิดปาก นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เป็นการใช้เกินกว่าความเป็นจริง และใช้เพื่อสกัดกั้นการใช้สิทธิ เสรีภาพของประชาชน ทำให้การแสดงความคิดเห็น หรือการวิพากษ์วิจารณ์ และการตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นอาชญากรรม ไม่มีประเทศประชาธิปไตยไหนในโลกที่ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปในลักษณะนี้

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งนี้ สำหรับกระบวนการขึ้นศาลจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก 5 คน จะขึ้นศาลแขวง และกลุ่มที่ 2 จำนวน 3 คน จะขึ้นศาลอาญา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการนัดหมายพวกเราอีกครั้งหนึ่ง