เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2561 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ขณะเยี่ยมชมกิจการของ บริษัท ตี๋บ้านนก 2005 จำกัด อ.เมือง จ.ชุมพร เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันว่า อยากเรียกร้องให้รัฐบาลและ คสช.เร่งแก้ไขปัญหาในระดับรากหญ้าให้เร็วที่สุด เพราะขณะนี้ธุรกิจขนาดเล็กพวก SME กำลังได้รับผลกระทบและเดือดร้อนมาก รายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง จากการลงพื้นที่สัมผัสปัญหาตามจังหวัดต่างๆ ทุกภาค ตนจึงรู้ว่าปัญหาเศรษฐกิจระดับรากหญ้ากำลังวิกฤตมาก แม้แต่ในกรุงเทพฯ เอง ตนไปนั่งกินลาบที่ร้านข้างถนนบ่อย ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนเคยถามเจ้าของร้านว่ามีรายได้วันละเท่าไหร่ ก็ได้รับคำตอบว่า มีรายได้วันละ 5,000-6,000 บาท แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รายได้เหลือเพียงวันละ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น นี่คือความจริงที่ได้จากร้านลาบข้างถนนตัวจริงเสียงจริง ส่วนธุรกิจเล็กๆ อื่นๆ เช่น ร้านโชวห่วย เกษตรกรรายย่อย ก็คงมีสภาพไม่ต่างกัน
“อยากเรียกร้องให้รัฐบาลลงมาดูธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้อย่างจริงจัง และหาทางแก้ไขให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ อย่ามัวแต่นั่งสั่งการอยู่แต่ข้างบน แล้วแค่โฉบไปโฉบมาคงไม่เพียงพอ เพราะประชาชนตัวจริงเสียงจริงกำลังเดือดร้อนจริงๆ พืชผลทางการเกษตร เช่น ยางพารา ปาล์ม มะพร้าว มีราคาตกต่ำมาก อยากบอกว่าขณะนี้รัฐบาลไม่มีรัฐมนตรีตัวจริงมาดูแลกระทรวง แต่มี “ซูเปอร์ปลัดกระทรวง” ที่ถูกดันขึ้นมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี อดีตปลัดกระทรวงเหล่านี้จึงยังยึดติดกับระบบราชการเก่าๆ ทำให้งานเดินแบบข้าราชการประจำ คือรอรับแต่คำสั่งจากเบื้องบนเท่านั้น เพราะคนเหล่านี้เติบโตมาจากข้าราชการประจำ ดังนั้น รัฐบาลจึงควรให้ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆ อย่างแท้จริงเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมากกว่า” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางไป จ.สระแก้วมา พบว่าขณะนี้ข้าวเริ่มมีราคาดีขึ้น แต่ดีขึ้นในขณะที่ข้าวไม่ได้อยู่ในมือของชาวนา แต่กลับไปอยู่ในมือของบรรดานายทุน ช่วงต้นฤดูที่ข้าวยังอยู่ในมือชาวนา ข้าวหอมมะลิขายได้แค่เกวียนละ 8,000 บาทเท่านั้น ส่วนมันสำปะหลัง เมื่อปีที่แล้วก็ราคากิโลกรัมละ 1.50-1.60 บาทเท่านั้น มาปีนี้ก็กระเตื้องขึ้นบ้างเป็นกิโลกรัมละ 2-2.20 บาท ทั้งที่ในอดีตราคาเคยสูงถึงกิโลกรัมละ 2.70-3.00 บาท