กระชาย โสมไทยสู้ภัยโควิด-19

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ/โครงการสมุนไพรเพื่อการพึงพาตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org

กระชายโสมไทยสู้ภัยโควิด-19

ข่าวดีที่ทุกชีวิตทุกชาติรอคอยอย่างใจจดใจจ่อก็คือ เมื่อไหร่จะค้นพบวัคซีนหรือยาต้านเจ้าเชื้อซาร์ส โคโรนาไวรัสตัวที่ 2 (SARS-CoV-2) นี้ได้เสียที

ในขณะที่ต่างประเทศเขากำลังค้นหายาเคมี นักวิจัยไทยเท่ในศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้นหาตัวยาของมหาวิทยาลัยมหิดล ก็กลับไปค้นหาตัวยาจากภูมิปัญญาสมุนไพรไทย สมกับสโลแกนของสถาบันที่ว่าเป็นภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน (Wisdom of the Land) ที่ซุ่มเก็บข้อมูลสารสกัดสมุนไพรไว้ถึง 6,000 ชนิด

แล้วคัดกรองขั้นแรกได้ 121 ชนิด กระทั่งได้ 6 ชนิดและแคบลงเหลือ 3 ชนิดที่มีศักยภาพในการฆ่าเชื้อโควิด-19 ในหลอดทดลองได้เกลี้ยงร้อยเปอร์เซ็นต์

แน่นอนหนึ่งในจำนวนท็อปทรีนี้มีชื่อฟ้าทะลายโจรอยู่ด้วย

แต่เนื่องจากกรมการแพทย์แผนไทยได้จองกฐินทำวิจัยการใช้ฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด-19 อยู่แล้ว ทางมหาวิทยาลัยมหิดลจึงแยกเวทีคัดนางงามสมุนไพรรอบชิง ซึ่งอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) ทั้ง 2 ตัว ได้แก่ ขิงและกระชายขาว

และในที่สุดสมุนไพรตัวเต็งหนึ่งเดียวก็คือ “กระชายขาว” นั่นเอง ด้วยข้อดีที่ทิ้งห่างจากคู่แข่งขาดลอย เพราะกระชายขาวมีฤทธิ์ยาเหนือฟ้าทะลายโจรถึง 20 เท่า และเหนือกว่าขิงถึง 10 เท่า

 

สําหรับชาวแพทย์แผนไทยอาจจะถามว่า “กระชายขาว” ในงานวิจัยชิ้นนี้เป็นสมุนไพรตัวไหนกันแน่ ก็ฟันธงไปได้เลยว่า คือ กระชายเหลืองที่มีชื่อพฤกษศาสตร์ว่า Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. ไม่ใช่กระชายแดง กระชายดำ

การที่มหิดลค้นกระชายแกงจากก้นครัวมาทำยาต้านเชื้อโควิด-19 จึงเป็นทั้งภูมิปัญญาแผ่นดินที่ใกล้ตัวคนไทยที่สุดและเป็นยาดีมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในที่นี้ขอสรุปสั้นๆ ถึงกระบวนการวิจัยแบบบูรณาการของมหาวิทยาลัยมหิดลเรื่อง “ประสิทธิภาพของกระชายขาวต้านโควิด-19” ซึ่งเพิ่งแถลงสู่สาธารณะจนเป็นที่ฮือฮาเมื่อเร็วๆ นี้

ต้องขอบอกตรงๆ ว่า นั่นเป็นการแถลงข่าวดีล่วงหน้าหนึ่งปี เพราะงานวิจัยที่เพิ่งสำเร็จไปนั้น เป็นขั้นการตรวจวิเคราะห์ในเชิงลึกถึงกลไกระดับเซลล์ในการใช้สารสกัดกระชายขาวฆ่าเชื้อโควิดในหลอดทดลอง

แม้จะเป็นการทดลองขั้นต้น แต่ก็มีความสำคัญยิ่งยวดเพราะเขาใช้เชื้อโควิด-19 จากผู้ป่วยจริงมาทำให้ติดเชื้อในเนื้อเยื่อต้นแบบ (Vero Cells) แล้วนำสารสกัดบริสุทธิ์ของกระชายขาวมาใส่ในหลอดทดลอง

ผลที่น่าตื่นเต้นไม่ใช่เพียงเพราะว่าสารสกัดกระชายขาวสามารถฆ่าเชื้อโควิดได้ 100% เท่านั้น

แต่ยังสามารถยับยั้งเซลล์ไม่ให้ผลิตโคโรนาไวรัสตัวใหม่ได้อีกด้วย

พูดได้ว่ากระชายขาวสามารถตอกฝาโลงให้โรคห่าโควิดในหลอดทดลองได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

และผลสำเร็จนี้ทำให้การทดลองกระชายขาวในสัตว์และในคน สามารถดำเนินไปต่อได้

จนสามารถสร้าง “ผลิตภัณฑ์ยาแผนไทยรูปแบบทันสมัย” (Modernized Thai Traditional Medicine) ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้สำเร็จ

คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 1 ปีข้างหน้า

 

สารสกัดบริสุทธิ์ของอัศวินกระชายขาวที่ออกฤทธิ์ต้านเชื้อโควิด-19 ได้อยู่หมัดมี 2 ตัวคือ

1) สารแพนดูราติน เอ (Panduratin A)

2) สารพิโนสโตรบิน (Pinostrobin)

อันที่จริงสารฟลาโวนอยด์ทั้งสองตัวนี้ไม่ใช่ของใหม่แต่ค้นพบมานานแล้ว โดยเฉพาะสารพิโนสโตรบิน มีฤทธิ์ต้านเชื้อราแคนดิดา อัลบิแคน (Candida albican) ในช่องคลอดที่ทำให้เกิดโรคตกขาวในสตรี และยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียชนิดแกรมลบ เช่น เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลริ (Helilobacter pylori) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร

ที่สำคัญคือช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง การสูบฉีดเลือดในหัวใจเป็นปกติ

ซึ่งตรงกับคัมภีร์สรรพคุณยาแลมหาพิกัดของศาสตร์การแพทย์แผนไทยที่กล่าวไว้ตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้วว่า รสเผ็ดร้อนขมของกระชาย แก้โรคมุตกิด (ตกขาว) และแก้กองลมหทัยวาตะ มีตำรับยามากมายที่เข้ากระชายเพื่อแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ บำรุงกำลังวังชาได้ไม่แพ้โสมจีน

และส่วนที่เป็นกระโปกกระชาย (หัวเหง้า) ยังช่วยชีวิตกระปู๋ของกระทาชายไม่ให้ตายด้านอีกด้วย (ฮา)

ก่อนหน้านี้นักวิจัยทางเภสัชของสหรัฐอเมริกาเคยพบว่า สารพิโนสโตรบิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเอนไซม์ที่ช่วยกำจัดสารพิษในตับ ในขณะที่ญี่ปุ่นพบว่าสารชนิดนี้ช่วยแก้หลอดเลือดแข็งตัวและแก้โรคอัลไซเมอร์

ดังนั้น การค้นพบสรรพคุณใหม่ของคณะวิจัยทางการแพทย์เภสัชของมหิดล จึงเป็นการต่อยอดภูมิปัญญาสมุนไพรไทยที่มีความสำคัญในการสู้วิกฤตโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของโลก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ร้องเพลงรอยากระชายขาวต้านโควิด-19 ของมหิดล

คนไทยควรหันมากินอาหารเมนูกระชายซึ่งมีมากกว่า 500 เมนู ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหารไทยประเภทผัดฉ่า แกงเลียง แกงปลาดุกกระชาย ต้มส้มปลานิลกระชาย ขนมจีนน้ำยาใส่กระชายเยอะๆ ฯลฯ

หรือเมนูประยุกต์อาหารฝรั่งอย่างสปาเกตตีขี้เมาทะเลกระชาย เบคอนคลุกกระชายใบมะกรูด

หรือจะแปลกเป็นอาหารทางเลือกคีโตงดแป้งอย่างขนมจีนเส้นบุกน้ำยากะทิปลาทูน่า เป็นต้น

 

ถึงบรรทัดนี้ คงมีคำถามว่า ถ้าจะกินกระชายสดเป็นยาสู้ภัยโควิด-19 ต้องใช้ขนาดเท่าไร

คำตอบจากผู้วิจัยก็คือ ต้องกินกระชายสดครั้งละประมาณ 250 กรัม เลือกใช้กระชายแก่เพราะจะมีสารสำคัญมากกว่ากระชายอ่อนหลายเท่า

กล่าวกันว่า กระชายดีต้องมาจากชุมพร นำกระชายมาล้างทำความสะอาดให้หมดจด ก่อนปั่นสดหรือหั่นเป็นแว่นกินดิบๆ ไม่ใช้ความร้อนเพราะอาจทำให้เสื่อมฤทธิ์ยา แต่จะให้ดีควรกินแบบโบราณ คือใช้ส่วนที่เป็นกระโปกกระชายหรือนมกระชายก็ได้ ปั่นหรือตำแหลกละเอียด ไม่ต้องคั้นน้ำ แล้วนำมาผสมน้ำผึ้งกินก่อนอาหารเย็นครั้งละ 1 ถ้วยชา (ประมาณ 30 ซีซี) ช่วยให้สดชื่น บำรุงกำลัง

เป็นยาอายุวัฒนะเลิศรสเสมอด้วยโสมพันปีเลยทีเดียว