การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ผ่านพ้นไปแล้ว 5 วัน มีหลากหลายรสชาติ บรรดาทีมเต็งต่างยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ตั้งแต่ “ตราไก่” ฝรั่งเศส, “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนตินา, “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี รวมถึงเต็งหนึ่งอย่าง “แซมบ้า” บราซิล

สำหรับโปรแกรมฟาดแข้งฟุตบอลโลก 2018 ประจำวันที่ 19 มิถุนายน มีปะทะแข้งให้ระทึกใจแฟนบอลกันอีก 3 คู่

โคลอมเบีย VS ญี่ปุ่น

เริ่มจาก เวลา 19.00 น. โคลอมเบีย พบกับ ญี่ปุ่น ในเกมเตะกลุ่มเอช ซึ่งเป็นการลงสนามนัดแรกของทั้ง 2 ทีม คู่นี้จะฟาดแข้งกัน ที่มอร์โดเวีย อารีน่า เมืองซารังนสก์ ช่องทรู 4 ยู ถ่ายทอดสด
โคลอมเบียภายใต้การนำทีมของ โฮเซ่ เปเกร์มัน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ลงเล่นอุ่นเครื่องเพียงเกมเดียวก่อนเดินทางมารัสเซีย เสมออียิปต์ไป 0-0 ส่วนซามูไรบลูส์ของกุนซือนิชิโนะ อากิระ ลงเล่นอุ่นเครื่องมา 3 นัด แพ้ให้กับกานา 0-2, แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 0-2 ก่อนจะมาชนะปารากวัย 4-2

คู่นี้ถือเป็นการรีแมตช์เมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งโคลอมเบียเอาชนะไปได้ 4-1 นอกจากนี้สถิติที่ผ่านมา 3 ครั้ง ญี่ปุ่นยังไม่เคยเอาชนะได้แม้แต่ครั้งเดียวอีกด้วย

โปแลนด์ VS เซเนกัล

คู่ต่อมาเวลา 22.00 น. ในเกมเตะกลุ่มเอช โปแลนด์ จะพบกับ เซเนกัล ซึ่งเป็นการลงสนามนัดแรกของทั้ง 2 ทีม ที่สปาร์ตัก สเตเดียม กรุงมอสโก ช่องอมรินทร์ทีวี ช่อง 34
โปแลนด์ ของกุนซืออดัม นาวาลก้า เล่นเกมอุ่นเครื่องมาแล้ว 2 เกม ส่วนฝั่งเซเนกัล ของกุนซืออาลิอู ซิสเซ่ ลงเล่นอุ่นเครื่องมา 3 นัด เสมอลักเซมเบิร์ก 0-0, แพ้ โครเอเชีย 1-2 และชนะเกาหลีใต้ 2-0
โปแลนด์จะขาด คามิล กลิก ปราการหลังที่เจ็บไหล่ และน่าจะลงได้ในเกมสุดท้าย ส่วนแนวรุกนั้นอาร์คาดิอุซ์ มิลิก อาจจะมีลุ้นลงเล่นกองหน้าคู่กับโคตรมหาประลัยล่าตาข่ายอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
เซเนกัล อาจจะปวดหัวเล็กน้อยกับการเลือกผู้เล่นลงมาเล่นรวมกับ ซาดิโอ มาเน่ ในแนวรุก เพราะมีตัวเลือกหลายตัว แต่คาดว่าจะให้มาเน่ยืนขวา และให้เดียฟรา ซาโก้ กับเกต้า บัลเด้ ประสานงานกัน

รัสเซีย VS อียิปต์

คู่สุดท้ายของค่ำคืนวันที่ 18 มิถุนายน เป็นการพบกันของ “หมีขาว” รัสเซีย ในฐานะเจ้าภาพ จะลงสนามนัดที่สองเจอกับ อียิปต์ ที่เซนส์ปีเตอร์เบิร์ก สเตเดียม เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เวลา 01.00 น. ช่องทรู 4 ยู ถ่ายทอดสด

เจ้าภาพโชว์ฟอร์มสุดหรูในเกมแรกด้วยการถล่ม “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดีอาระเบีย 5-0 ส่วนอียิปต์เสียประตูท้ายเกมก่อนพ่ายอุรุกวัย ไปแบบน่าเสียดาย 0-1

สถานการณ์ในกลุ่มเอนั้น หากรัสเซียเก็บ 3 แต้มได้จะมีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปได้สูง แต่ทางฝั่งฟาโรห์หลังพิงฝา หากแพ้นัดนี้โอกาสเก็บกระเป๋ากลับบ้านสูงลิ่วเช่นกัน โดยนี่นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมได้ปะทะฝีเท้ากันในเกมอย่างเป็นทางการ