E-DUANG : พิจารณา “ความเงียบ” เชิง “กลยุทธ์”

“ความเงียบ” กำลังได้รับการยกระดับเป็น “โอสถ” ขนานเอกในทาง การเมือง

ไม่ว่า “คุณหญิง” ไม่ว่า “ดร.” ล้วนใช้

หลังกรณี”ดอกดาวเรือง แทนดวงใจ”ถูกตั้งข้อสังเกต “คุณหญิง” ออกมาขอโทษ

จากนั้น ก็อำลาไปสู่ “ความเงียบ”

หลังกรณี มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก เด่นชัดว่าไม่มาไทยในวันที่ 30 ตุลาคม

เงาร่างของ “ดร.” ก็หายไป

“ความเงียบ” ได้กลายเป็นยาสมานแผล และเยียวยาอาการในทางการเมืองได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

ใครๆก็หันมาใช้ “บริการ”

 

ในทางการเมือง ไม่เพียงแต่มีอนุสาสน์เน้นย้ำในเรื่อง “การถอย” อย่างมีจังหวะก้าว

เสนอออกมาในเชิงเปรียบเทียบกับ “การรุก”

หากแต่คำว่า “การเงียบ” การรู้จักทำตัวเงียบ-เงียบก็เป็นกลยุทธ์ 1 ซึ่งได้รับการเน้นย้ำ

ในทางเป็นจริงล้วนมีการพิสูจน์

ไม่มีใครจะสามารถดำเนิน “การรุก” ได้ตลอดเวลา หากต้องมีจังหวะ 1 ที่จำเป็นต้องยึดกุม “การถอย”

นี่เป็นธรรมชาติของทุก “การเคลื่อนไหว”

ไม่ว่าจะมองจากกระบวนการของ”วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ” ไม่ว่าจะมองจากกระบวนการของ “วิทยาศาสตร์สังคม”

และท่วงทีลา”การถอย”ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ “การเงียบ”

 

ภายใน “การเงียบ” ต้องยึดกุมหลักการแห่ง “ความเงียบ” ด้วยความเคร่งครัด

เหมือนที่บางคน “เงียบ” อยู่ที่ “ลอนดอน”

เหมือนที่บางคน “เงียบ” อยู่ที่ “ดูไบ” มาเป็นเวลาหลาย 10 ปีต่อเนื่องกัน

“คุณหญิง” ก็เคยอยู่ “ไทยรักไทย”

“ดร.” ก็เคยอยู่ “ไทยรักไทย” ย่อมสามารถเรียนรู้ได้จากกระบวนการ “เข้าเงียบ”ของผู้อาวุโสมากกว่าว่าสามารถเยียวยาโรคาพยาธิสภาพได้ชะงัดอย่างยิ่ง

“ความเงียบ” จึงเท่ากับเป็น “โอสถ” สำคัญ