มองบ้านมองเมือง ปริญญา ตรีน้อยใส / ธ ผู้สถิตในดวงใจนิรันดร์

มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส

ธ ผู้สถิตในดวงใจนิรันดร์

ผู้เขียนมองบ้านมองเมืองมานานยี่สิบกว่าปี พาผู้อ่านไปมองหลายบ้านหลายเมืองไกลๆ หลายแห่ง

มองบ้านมองเมืองฉบับนี้ ขออนุญาตมองเรื่องใกล้ๆ ใกล้ตัวผู้เขียนสักครั้ง

ย้อนเวลากลับไปเมื่อต้นปี พ.ศ.2511 เกิดเหตุวิกฤตสำคัญในชีวิตของผู้เขียน

ด้วยเพลิงที่เกิดขึ้นจากร้านค้าฝั่งตลาดต้นลำไย ได้ลุกลามข้ามถนนมาถึงบ้านหรือร้านค้าของผู้เขียน ที่อยู่ทางฝั่งตลาดวโรรส

เปลวไฟได้เผาผลาญร้านค้ามากมาย วอดวายทั้งตลาดวโรรสและตลาดต้นลำไย ซึ่งในยุคสมัยที่ยังไม่มีศูนย์การค้า ไม่มีซูเปอร์สโตร์ หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อ เหมือนในปัจจุบัน

ตลาดทั้งสอง ไม่ได้เป็นแค่ตลาดสด หากเป็นเหมือนศูนย์การค้าและศูนย์กลางธุรกิจของเชียงใหม่และภูมิภาคเหนือ

มหาอัคคีภัยครั้งนั้น จึงสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม

รวมทั้งสร้างความเศร้าโศกให้กับผู้คนหลายร้อยครอบครัว

ในเวลานั้น เชียงใหม่ดูจะอยู่ห่างไกลพระนคร อีกทั้งเป็นเพียงเพลิงไหม้ตลาดแห่งหนึ่งเท่านั้น

แต่ด้วยพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยประชาทุกหมู่เหล่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ จากกรุงเทพฯ มาทอดพระเนตรสถานที่เกิดเหตุ

มีพระบรมราชานูญาตให้ผู้ประสบภัยได้เข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด

เป็นการสร้างขวัญให้กับผู้เดือดร้อน และเสริมกำลังใจให้กับผู้ทุกข์ยากอย่างยิ่ง

ผู้เขียนคงเหมือนกับผู้ประสบภัยคนอื่นนับพันคน ที่ยังจดจำพระมหากรุณาธิคุณครั้งนั้นได้ดี และกลายเป็นเรื่องราวที่ฝังอยู่ในใจเสมอมา

อีกทั้งรู้ว่า ผู้คนอีกมากมายหลายล้านคนทั่วประเทศ ที่เคยประสบพบภัยพิบัติต่างๆ ล้วนมีพระเจ้าอยู่หัวเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง

ข่าวสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อเวลา 15.52 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 จึงเป็นข่าวร้ายสำหรับคนไทยทุกหมู่เหล่า เมื่อรู้ว่า ธ ผู้เป็นที่พึ่งนั้น ได้เสด็จสู่สวรรคาลัย ท่ามกลางความโศกเศร้าทั้งปวง ประชาราษฎร์ทั่วทุกแห่งหน พร้อมใจร่วมกิจกรรมถวายสักการะพระองค์ ทั้งในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และทั้งในถิ่นที่อยู่อย่างต่อเนื่องนับแต่นั้นมา

ซึ่งในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2560 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ราษฎรกลุ่มเล็กๆ ได้จัดกิจกรรมเล็กๆ ในตรอกเล็กๆ ที่ชื่อ เล่าโจ้ว (ถนนข่วงเมรุ) ส่วนหนึ่งในพื้นที่เกิดเหตุมหาอัคคีภัยในอดีต

แม้ผู้เขียนไม่มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมถวายสักการะด้วยตนเอง ได้แต่ส่งใจไปร่วมพิธีกับผู้คนจากเก้าชุมชน ในตลาดและพื้นที่โดยรอบ จากสองชนเผ่า คือ ม้งและลีซอ จากสองศาลเจ้า คือ ปุนเถ้ากงและกวนอู จากสองสมาคม คือ ผู้ค้าทองและผู้ค้าแผงลอย รวมทั้งชาวอิสลาม และชาวอินเดีย และห้างวินส์ คอสเมติก

เนื่องในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มองบ้านมองเมือง ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ปวงประชา เคยเป็นสุข ทุกแห่งหน

ภูมิพล เคยบันดาล ให้ร่มเย็น

เอกบรม จักรินทร์ ดั่งเดือนเพ็ญ

ข้าวรพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้า ถวายสักการะ