จรัญ พงษ์จีน : “ประยุทธ์” กับคำมั่นเลือกตั้งใน “ปฏิญญาวอชิงตัน”

จรัญ พงษ์จีน

เชื่อแล้วว่า การเป็น “มหาอำนาจโลก” มันใหญ่ยิ่งจริงๆ จะมีเรื่องอันใดเล่า ก็เรื่องนำคณะรัฐมนตรี พ่อค้าวาณิชตะลอนทัวร์สหรัฐอเมริกาของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั่นไง

“บิ๊กตู่” ซุป”ตาร์ขาประจำของเรา ปากหนักหัวแข็งโป๊ก ยังกะ “แบริเออร์” ร้อยวันพันปี ผู้สื่อข่าว-คนไทย ถามไถ่เรื่อง “โรดแม็ปเลือกตั้ง” จะระเบิดเถิดเทิงได้เมื่อไหร่ น็อตหลุด รมณ์บ่จอย เบิ้ลเสียงดังยังกะท่อมอเตอร์ไซค์

แต่พลันที่เจอหน้ากับ “ขาใหญ่” ประธานาธิบดีมะกัน “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่เปิดห้องรูปไข่ต้อนรับขับสู้ แค่ 30 นาที หยอดคำหวานเข้าฉึกสองฉึก

“นับเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ของไทยและภริยา เรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในขณะนี้ และแนบแน่นยิ่งขึ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เราทำสิ่งต่างๆ ร่วมกันมากมาย เป็นเรื่องที่ดีมาก ที่ท่านได้มาอยู่กับเราขณะนี้ วันนี้เป็นวันที่ยากลำบากสำหรับเรา…และนับเป็นเกียรติอย่างสูง ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง”

“พล.อ.ประยุทธ์” แพ้เหลี่ยมคนขาใหญ่ เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ต่างจาก “บิ๊กตู่” แห่งตึกไทยคู่ฟ้า กล่าวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนว่า “ในนามของตัวแทนชาวไทย ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มาพบกับท่านประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง”

จากนั้น “พล.อ.ประยุทธ์” เหมือนคนโดนของ ออกมาให้สัมภาษณ์กับ “สื่อเทศ” แบบหมดเปลือก โดยไตเติลนำร่องว่า “เรามาในฐานะนี้ เขาให้เกียรติต้อนรับขนาดนี้ ต้องขอบคุณ”

ประเด็นต่อมา เกิดปมดราม่า “เงินมาผ้าหลุด” แบบไม่เหลือหลอ เมื่อ “บิ๊กตู่” สารภาพว่า ในการสนทนาวิสาสะกับ “ผู้นำมะกัน” พูดถึงการเดินหน้าตามหลักประชาธิปไตยสากล จะเป็นไปตามโรดแม็ป โดยไม่มีการเลื่อนใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อประกาศแล้วก็จะมีกรรมวิธีของการเลือกตั้ง คือนับไปอีก 150 วันตามกฎหมายหลังจากประกาศ

“ยืนยันว่า จะประกาศเลือกตั้งปีหน้าแน่นอน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐไม่ได้ถามเรื่องการเลือกตั้ง แต่ตนได้แสดงความเชื่อมั่นออกไป เพราะไม่ได้ปกปิดใคร ไม่ได้บิดเบือนอย่างที่หลายคนกล่าวอ้าง พูดเช่นนี้มาโดยตลอด”

ขณะเดียวกัน ถ้าถามคนไทยว่าเคยได้ยินประโยคดี วลีทอง นี้มาหรือเปล่า ค่อนประเทศตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้ยินมาหนหนึ่งแล้ว เมื่อศักราชก่อน ที่แดนไกล คลับคล้ายคลับคลาว่า จะเป็น “ปฏิญญาโตเกียว” อะไรทำนองนั้น

แต่ในเมืองไทย “หมูไม่เคยหก” ถามซอกแซกเรื่องโรดแม็ปเลือกตั้งทีไร “พล.อ.ประยุทธ์” ตีหน้ายักษ์ จะ “กินตับ” เอาละนั่น

อย่างไรก็ตาม มาสาย-มาไส ไกลแสนไกลขนาดไหน ก็ยังดีกว่า “ไม่มา-ไม่มี” สรุปว่า โรดแม็ปว่าด้วย “ศึกเลือกตั้ง” ข้ามมหาสมุทร กึกก้องกัมปนาทมาจากแดนไกล “เมืองลุงแซม”

ขอย้ำอีกครั้งว่า นี่คือ “ปฏิญญาวอชิงตัน” ส่งผลให้บรรยากาศทางการเมืองในประเทศไทยกลับมามีรสชาติอีกครั้ง “นักเลือกตั้ง” เอ็นดอร์ฟินหลั่งทะลักล้นกันอีกแล้ว “แหละพี่น้อง”

 

ทีนี้ ตามไปดู วันคืนชื่นสุขเหลือจะกล่าวของ “คนการเมือง” ที่ครั่นเนื้อครั่นตัว อยากจะเลือกตั้งปิ่มใจจะขาด “ล้อหมุน” นับจากจุดสตาร์ต “รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560” มีจำนวน 16 หมวด 279 มาตรา

ประกาศใช้ ณ วันที่ 6 เมษายน ซึ่งตรงกับ “วันจักรี” ที่ผ่านมา

เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้วนั้น ไล่กรอบเวลาของแต่ละขั้นตอนดูต่อไปทีละส่วน

คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ “กรธ.” ชุด “ปู่มีชัย ฤชุพันธุ์” จะต้องจัดทำ “กฎหมายลูก” หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

4 ฉบับต้องเร่งคีย์ตีจังหวะให้สมบูรณ์ก่อน ประกอบด้วย 1.พ.ร.บ.เลือกตั้ง 2.พ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง 3.พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และ 4.พ.ร.บ.พรรคการเมือง ซึ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ถ้าไม่มีกฎหมายฉบับหนึ่งฉบับใด ไม่อาจจะจัดการเลือกตั้ง จึงต้องร่างให้แล้วเสร็จตามรัฐธรรมนูญกำหนดเวลา

โดยมีกรอบเวลา 240 วันหรือ 8 เดือน มีผลจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ คือ 6 เมษายน วันสุดท้ายจึงเท่ากับก่อนวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ซึ่งถือว่าเวลาค่อนข้าง “เหลือน้อย”

แต่ทาง “กรธ.” ยืนยันนอนยัน จะเหยียบคันเร่งกันชนิดควันออกหู ให้แล้วเสร็จ “กฎเหล็ก”

เมื่อ “กรธ.” ร่างกฎหมายลูกสมบูรณ์ ส่งร่างให้ “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” หรือ “สนช.” พิจารณาในลำดับถัดไปภายใน 60 วัน

เสร็จจากขั้นตอนของ “สนช.” ต้องส่งเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัย ว่า เนื้อหาสาระส่วนไหนขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ประการใด มีหรือไม่มีจุดบกพร่อง กำหนดระยะเวลาไว้อีก 30 วัน

กรณีไม่มีสะดุดปังตอตรงส่วนไหน ขั้นตอนจะจบบริบูรณ์ ไม่เกินวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2561

จากนั้น นำรัฐธรรมนูญส่งให้ “นายกรัฐมนตรี” เพื่อนำขึ้นกราบบังคมทูลเกล้าฯ ภายใน 30 วัน

รอประกาศใช้ “กฎหมายลูก” 4 ฉบับ ภายใน 90 วันหรือ 3 เดือน จุดลงตัวไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2561

จึงเข้าโหมดสุดท้าย คือกระบวนการตามหลักการประชาธิปไตยสากล กรรมวิธีเลือกตั้ง เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

เป็นไปตามที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ลั่นวาจาไว้ที่ทำเนียบขาว ถือว่าเป็น “ปฏิญญาวอชิงตัน”

“150 วันตามกฎหมาย ยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้าแน่นอน”

ดังนั้น 150 วัน เท่ากับ 5 เดือนถัดไป หลังจะชนฝาเอาราวปลายเดือนพฤศจิกายน หรือต้นเดือนธันวาคม

การเลือกตั้งในประเทศไทยจะได้ระเบิดเถิดเทิงขึ้นอีกครั้ง

“วัดครึ่งกรรมการครึ่ง” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2 ระบบจากเขตเลือกตั้ง-บัญชีรายชื่อ 500 คน และ “ส.ว.” 250 คน