ไม่ว่าการหายตัวไปตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 23 สิงหาคม ไม่ว่าการไปปรากฏตัวที่นครดูไบในตอนสายของวันที่ 24 สิงหาคม

ล้วนเป็นเรื่องของ “การวางแผน”

แม้กระทั่งรายงานของการเดินทางจากนครดูไบไปยังกรุงลอนดอนในวันที่ 11 กันยายน

ก็ล้วนเป็นเรื่องของ “การวางแผน”

คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ “การวางแผน” ทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อใด

บางคนบอกว่าเห็นชัดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม

เมื่อปรากฏเป็นภาพและข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปล่อยโฮพร้อมกับน้ำตาพรูๆบนยอดภูเขาทอง

นั่นแหละสะท้อน “การศึกมิหน่ายเล่ห์”

 

หากนำเอารายละเอียดนับแต่กลางดึกของคืนวันที่ 23 สิงหาคมมาประสบเข้ากับการไปยังกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 11 กันยายน

คำตอบ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร่วมมือด้วยหรือไม่

คนที่เคยมองภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แก้ไขไม่แก้แค้นเมื่อได้ชัยชนะจากการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม 2554

อาจนึกไม่ถึง

เหตุปัจจัยอะไรจากเดือนกรกฎาคม 2554 กระทั่งมาถึงเดือนสิงหาคม 2560

ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีเขี้ยวมีคม

มีเขี้ยวมีคมกระทั่งทำให้เกิดความรู้สึก”ร่วม”ว่าที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเพราะได้ “ไฟเขียว”

ไฟเขียวผ่านตลอดจนถึง “ลอนดอน”

 

บรรดาคนที่เคยมองและประเมิน “ศักยภาพ” ทางการเมืองของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในแบบ “ต่ำเตี้ยติดดิน”

ก็น่าจะต้อง “คิดใหม่ ทำใหม่”

เพราะหากไม่คิดใหม่ ทำใหม่ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าใจทุกกระบวนท่าอันออกมาจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ยิ่งประสานเข้ากับ นายทักษิณ ชินวัตร ยิ่งน่าจับตา

เส้นทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปี 2560 เหมือนกับเส้นทาง นายทักษิณ ชินวัตร หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 แน่นอน

คำถามคือ จะมีฤทธิ์เท่า นายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่