หนุ่มเมืองจันท์ : พลิกมุม “อดีต”

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

ตอนนี้ GDH มีหนังเรื่องใหม่กำลังฉายอยู่

“เพื่อน…ที่ระลึก”

เป็นหนังระทึกขวัญของ “จิม” โสภณ ศักดาพิศิษฎ์ ผู้กำกับการแสดง “ลัดดาแลนด์”

เขาใช้สถานที่ตึกสาทร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นฉากสำคัญ

เพราะเป็นเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2540 ที่เมืองไทยเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ขอบคุณภาพจากเพจ “เพื่อนที่ระลึก”

อาคารแห่งนี้เหมือนอนุสาวรีย์ของเหตุการณ์

เพราะปล่อยร้างมายาวนาน

ในคลิปโฆษณาแรกของหนังเรื่องนี้จะปูพื้นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 2540 ผ่านสัญลักษณ์มากมาย

เขาใช้คำว่า “ที่ระลึกปี 2540”

ขอบคุณภาพจากเพจ “เพื่อนที่ระลึก”

อะไรบ้างที่อยู่ในความทรงจำของแต่ละคน

ลองนึกตามดูสิครับว่ามีอะไรบ้าง

ทีวีจอตู้

เทปคาสเส็ต

ซาวนด์อะเบาต์

ตู้สติ๊กเกอร์

เพจเจอร์ ฯลฯ

คนอายุ 35 ขึ้นไปเห็น “ที่ระลึก” แต่ละชิ้นแล้วคงอดยิ้มตามไม่ได้

เพราะทุกคนล้วนมีเรื่องราว “ความทรงจำ”

อย่าง “โอ๊ต” ปราโมทย์ ที่เล่าเรื่อง “เพจเจอร์” ว่าช่วงที่เขินที่สุดคือต้องบอกข้อความหวานๆ จีบแฟน

นึกออกใช่ไหมครับว่าประโยคหวานๆ เหล่านี้เราควรจะคุยกัน 2 คน

ไม่ใช่ผ่าน “ตัวกลาง”

แต่ช่วงที่ใช้ “เพจเจอร์” จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่เป็น “พี่อ้อย-พี่ฉอด” รับรู้เรื่องราวความรักของหนุ่มสาว

นั่นคือ โอเปอเรเตอร์ของ “เพจเจอร์”

ครับ หลังจากคลิปโฆษณาของ “เพื่อน ที่ระลึก” ออกมาได้ไม่นาน ธนาคารกสิกรไทยก็ออกหนังโฆษณาชุดใหม่

“สบายดีหรือเปล่า”

ใช้เพลงของวง XYZ ที่คนรุ่นนี้คุ้นระดับร้องคลอได้

หนังโฆษณาของธนาคารกสิกรไทยเรื่องนี้แรงมากครับ

ยอดวิวสูงถึงเกือบ 12 ล้านวิว

…โลกเปลี่ยนไป #ประทับใจเหมือนเดิม

เป็นเรื่องราวของเด็ก 2 คนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ต้องจากกัน

คล้ายๆ กับหนัง “แฟนฉัน”

ตลอดเวลาทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันผ่านทางจดหมาย โทรศัพท์

มีอัดเพลงใส่เทปคาสเส็ตให้กันด้วย

ตามมาด้วยการส่งข้อความหวานๆ ผ่านเพจเจอร์

และโทรศัพท์มือถือที่ตั้งโต๊ะให้เช่านาทีละ 3 บาท

ของแต่ละชิ้นในหนังโฆษณาชุดนี้ทำให้ “อดีต” หวนคืนกลับมา

เป็นหนังโฆษณาที่น่ารักมากครับ

เหมือนเดิม…

หนังเรื่องนี้ทำงานกับคนอายุ 35 ขึ้นไป

ยิ่ง 40-50 ยิ่งอิน

…หนังเรื่องนี้สร้างมาเพื่อเรา

ผมรู้สึกว่ากระแส “ย้อนอดีต” กำลังจะกลับมาแรงอีกครั้ง

เพราะนอกจากหนัง 2 เรื่องนี้แล้ว

ขอบคุณภาพจากเพจ “เพื่อนที่ระลึก”

คอนเสิร์ตใหญ่ “เจ เจตริน” เมื่อกลางปี จะจัดอีกครั้งตอนปลายปี

คอนเสิร์ตใหญ่ปีละ 2 ครั้ง

ศิลปินใหม่ๆ ยังจัดไม่ได้เลย

รายการ The mask singer ก็ทำให้เพลงยุค 90 กลับมาอีกครั้ง

ศิลปินรุ่นนั้นอย่าง ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง หรือ “เจมส์” เรืองศักดิ์ กลับมาอีกครั้งหนึ่ง

ล่าสุด เพิ่งอ่านบทความในเว็บ The Standard ของ “กร” ชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานโทรทัศน์ดิจิตอล ของ “เวิร์คพอยท์”

เขาเขียนเรื่องร้านที่กำลังมาแรงมากในวันนี้

ชื่อร้าน เดอะ คาสเส็ท

The Cassette Music Bar

เจ้าของร้านเป็นน้องที่เรียน ABC 3 รุ่นเดียวกับ “กร”

แจ้และภา

ร้านนี้อยู่แถวเอกมัย ขนาดประมาณแค่ 2 คูหา

เชื่อไหมครับว่าคนแน่นมายาวนานหลายเดือนแล้ว

แน่นระดับแทบจะขยับตัวไม่ได้

ล้นทะลักออกมานอกร้าน

คิวจองยาวเหยียด

จนตอนนี้การจองโต๊ะกลายเป็นการแสดงพลังบารมีราวกับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ใครจองได้…สุดยอด

คงคล้ายๆ กับโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงในอดีตที่คนแน่นระดับต้องจองคิวโต๊ะล่วงหน้า

เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์”

หุ้นส่วนใหญ่คนหนึ่ง คือ “สุพจน์” เป็นเพื่อนผม

ตามปกติเวลาเราโทร.ไปจองโต๊ะร้านอาหารของเพื่อน

เราคล้ายๆ กับเป็นผู้มีบุญคุณหาลูกค้าให้เพื่อน

แต่ที่นี่…ไม่ใช่

เพื่อนกลายเป็นผู้มีบุญคุณที่หาโต๊ะให้เรา

ตอนนั้นชื่อ “ตุ้ม มติชน” ดังมากครับที่โรงเบียร์

เป็น “ผู้มีบารมี” บนกระดานจองโต๊ะ

เพราะมีชื่อจองเกือบทุกวัน

แต่คนไปไม่ซ้ำหน้ากันเลย

ที่The Cassette Music Bar ผมไม่เคยไป

แต่ “กร” เล่าให้ฟังเป็นประจำ

เขาชอบ “วิธีคิด” และ “คอนเซ็ปต์” การแต่งร้าน

“ภา” เป็นคนคิดเรื่อง DNA ของร้าน

ตั้งแต่กลุ่มเป้าหมาย คือ คนวัยทำงาน

และจับกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก

เพราะถ้าผู้หญิงสวยๆ อยู่ในร้านเมื่อไร

ผู้ชายจะตามมา

“ภา” เคยทำรองเท้ายี่ห้อ Paa

เป็นคนที่เข้าใจผู้หญิงมาก

ร้านนี้มีสัญลักษณ์คือ เทปคาสเส็ตขนาดใหญ่หน้าร้าน

สีแพนโทนหวานๆ

มีแกนกลางเทปคาสเส็ตให้หมุนเล่นด้วย

จุดนี้ คือ “ภาพจำ” ของร้านที่สื่อความหมายครบถ้วนสมบูรณ์

ทั้งกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิง วัยทำงาน

แนวเพลงก็ชัดว่าต้องเป็นเพลงยุค 90

รุ่นเทปล้านตลับ

ใครมาก็ต้องถ่ายรูปกับหน้าร้าน แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย

ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านโดยไม่ต้องจ่ายเงิน

ดนตรีจะเป็นกีตาร์

เพลงที่เล่นต้องเป็นเพลงตามลิสต์ของ “ภา” ซึ่งเป็นเพลงฮิตในยุคนั้น

ลูกค้าในร้านทุกคนจึงร้องคลอได้

บรรยากาศในร้านจึงกลายเป็นทุกคนช่วยกันร้อง

คล้ายๆ กับตอนที่ล้อมวงร้องเพลงเล่นกับเพื่อนๆ ตอนเรียน

ด้วยวิธีคิดแบบ “ย้อนอดีต” ที่ทุกคนโหยหา

The Cassette Music Bar จึงประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ

ความสำเร็จของหนังโฆษณาธนาคารกสิกรไทย

คอนเสิร์ต “เจ เจตริน”

หรือร้านเดอะ คาสเส็ท

แสดงให้เห็นว่าเรื่อง “อดีต” นั้นมีเสน่ห์?

เราจะมอง “อดีต” เป็นเรื่องเก่าของคนรุ่นเก่า

หรือ “อดีต” คือ “ความทรงจำ” ที่งดงาม

เพียงแค่พลิกมุมมองนิดเดียว

ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันที