กรณีการหายตัวไปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งวันยิ่งมากด้วย ความสลับซับซ้อน ซ่อนเงื่อน

อาจจะเริ่มต้นจากบ้านซอยโยธินพัฒนา 3

แต่เมื่อเดินทางออกไปที่สุดก็จบลงที่ด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากนั้นก็ไร้ร่องรอย

ขณะเดียวกัน ที่มีการกรองการเคลื่อนไหวของรถจาก 20 เหลือเพียง 2 คันก็เริ่มไม่แน่นอน

เพราะแม้กระทั่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ก็ตัน

ไม่สามารถระบุได้ว่า บุคคลที่นั่งอยู่ในรถเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จริงหรือไม่

จากสระแก้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไร้ตัวตน

 

ถามว่าเหตุปัจจัยอะไร “เจ้าหน้าที่” จึงยังยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงอยู่ในประเทศ

ทั้งๆที่ “ข่าวลือ” ไปไกลถึง ดูไบ

คำตอบ 1 มาจากคำปฏิเสธไม่ว่าจะจากกัมพูชา ไม่ว่าจะจากสิงคโปร์ ไม่ว่าจะจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ทั้งนี้ แทบไม่ต้องรอจากอีก 190 กว่าประเทศ

คำตอบ 1 มาจากการยังไม่ปรากฏ “หลักฐาน” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกไปจากประเทศได้อย่างไร

ทางบก ทางเรือ ทางอากาศ

ไม่ว่าหน่วยงานข่าวของกองทัพ ไม่ว่าหน่วยงานข่าวกองตำรวจ ไม่ว่าหน่วยงานข่าวพลเรือน

ล้วนไม่มี “คำตอบ”

 

เหมือนกับคำตอบจะอยู่ที่วันที่ 27 กันยายน แต่ก็ไม่มีใครให้ความกระจ่าง

เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปิดปากเงียบ

จับได้เพียง “อาการ” อันออกมาจากคนในตระกูลชินวัตรที่มิได้แสดงความตระหนกตกใจอะไร ตรงกันข้าม กลับมีแต่ความโล่งอก โล่งใจ

ยิ้มแย้มแจ่มใสผ่านเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม

ยิ่งผ่านไปเนิ่นนาน แสงแห่งสปอตไลต์แทนที่จะฉายไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ นายทักษิณ ชินวัตร กลับรวมศูนย์ไปยัง คสช.

“คสช.” ต่างหากที่จะกลายเป็น “จำเลย”