แมลงวันในไร่ส้ม/ข่าวซื้อหุ้น “เนชั่น” อีก ศาลสั่งจำคุก “สรยุทธ” และกรณี “ดีเจเก่ง”

แมลงวันในไร่ส้ม

ข่าวซื้อหุ้น “เนชั่น” อีก ศาลสั่งจำคุก “สรยุทธ” และกรณี “ดีเจเก่ง”

การปรับตัวของวงการสื่อยังดำเนินไป

ล่าสุดเป็นข่าวจากเครือเนชั่น หลังจากมีข่าว บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าไปซื้อหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG สัดส่วน 12.27%

ต่อมาโซลูชั่นคอนเนอร์ เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS และเกิดเหตุเกรียวกราวเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 เนชั่นหรือ NMG จัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ที่ชั้น 7 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท เกิดปัญหาผู้ถือหุ้นบางส่วนเข้าประชุมไม่ได้ จนกลายเป็นเรื่องวุ่นๆ ขึ้น

ผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมไม่ได้ เข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี และมีการยื่นฟ้องต่อศาลในเวลาต่อมา

วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ตัดสินให้ปรับจำเลย 9 คน คนละ 5 แสนบาท พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ มาตรา 89/7 และ พ.ร.บ.บริษัทมหาชน มาตรา 33, 102, 104 เเละ 105

จำเลย 9 คนประกอบด้วย นายณิทธิมณ หัสดินทร ณ อยุธยา, นายปกรณ์ บริมาสพร, นายเชวง จริยะพิสุทธิ์, นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ, นางสาวเขมกร วชิรวราการ, นายพนา จันทรวิโรจน์, นางสาวดวงกมล โชตะนา, นายเสริมสิน สมะลาภา และ นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น

คำฟ้องระบุว่า จำเลยทั้ง 9 กีดกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม โดยทุจริต เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สำหรับกลุ่มพวกพ้องของตัวเองที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารบริษัทต่อไป

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของ นายสุทธิชัย หยุ่น และพวกรวม 9 ราย เป็นการร่วมกันกระทำการ ไม่สุจริต ขาดความรับผิดชอบและความระมัดระวังตาม พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ มาตรา 89/7 พ.ร.บ.มหาชน มาตรา 33, 102, 104 และ 105 ต้องตามมาตรา 291/2 วรรคหนึ่ง

พิพากษาให้ปรับคนละ 5 แสนบาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30

ล่าสุด มีข่าวว่าบริษัท CHIT LOM LIMITED ได้เข้าซื้อหุ้นเนชั่น จาก DIGITAL SKY HOLDINGS ในสัดส่วน 9.64% ของสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมดของกิจการ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560

ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 แทน DIGITAL SKY HOLDINGS ด้วยจำนวนหุ้น 391,972,000 หุ้น

การซื้อหุ้นครั้งนี้ ปรากฏในรายงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. โดยการซื้อหุ้นเกิดขึ้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2560

CHIT LOM LIMITED ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง เป็นกองทุนของนักธุรกิจที่ถือหุ้นในเนชั่นอยู่แล้ว

อีกคดีที่มีความเกี่ยวพันแตะไปที่เครือเนชั่น

เมื่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จำคุก นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง 13 ปี 4 เดือน ในข้อหายักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ อสมท กว่า 138 ล้านบาท

ศาลอ่านคำพิพากษา เมื่อ 29 สิงหาคม จากนั้นนำตัวนายสรยุทธเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

จำเลยอื่นได้แก่ น.ส.พิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โทษจำคุก 20 ปี และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัท ไร่ส้ม จำกัด จำคุก 13 ปี 4 เดือน

นายสรยุทธ ได้ยื่นสู้คดีต่อในชั้นฎีกาทันที โดยวางหลักทรัพย์ขอประกันตัว แต่เนื่องจากคดีนี้ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น การจะยื่นฎีกา ต้องมีผู้พิพากษาหรืออัยการสูงสุดรับรอง เมื่อมีผู้รับรองให้ยื่นฎีกาได้แล้ว ถึงจะขอประกันตัวได้

เวลาผ่านไปกว่าสัปดาห์ การยื่นฎีกาและขอประกันตัวยังไม่คืบหน้า

เส้นทางในงานข่าวของนายสรยุทธ เริ่มต้นจากเครือเนชั่น ในปี 2531 ทำข่าวการเมือง จัดรายการวิทยุกับ กนก รัตน์วงศ์สกุล และเมื่อโทรทัศน์เนชั่นเปิดตัว ในปี 2543 สรยุทธกับกนกจัดรายการเก็บตกจากเนชั่น

และออกจากเนชั่นในปี 2546 ซึ่งทำให้ สุทธิชัย หยุ่น ไม่พอใจอย่างมาก

ทำรายการช่อง 9 หรือโมเดิร์นไนน์ทีวี ช่อง 3 กิจการรุ่งเรือง เปิดบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ทำรายการโทรทัศน์ และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด รับจัดอีเวนต์

ปี 2548 สรยุทธและบริษัทไร่ส้ม ทำรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ร่วมกับ กนก รัตน์วงศ์สกุล ทางช่อง 9 อสมท

เงื่อนไขการแบ่งผลประโยชน์ก็คือ วันจันทร์ถึงศุกร์ โฆษณาได้วันละ 2.30 นาที ถ้าเกินจะต้องชดเชยให้ อสมท นาทีละ 240,000 บาท

ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ โฆษณาได้วันละ 5 นาที หากเกินจะต้องชดเชยให้ อสมท นาทีละ 200,000 บาท

สิ้นปี 2549 เกิดข่าวว่า บริษัทไร่ส้ม ยักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” โดย นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สัมภาษณ์สหภาพแรงงาน อสมท และเผยแพร่ทางโทรทัศน์ของกลุ่มพันธมิตรฯ

เรื่องราวลุกลาม แม้สรยุทธนำเงินส่วนเกินไปคืน แต่มีการนำเรื่องเข้า ป.ป.ช. ระหว่างนั้น กนกประกาศไม่จัดรายการร่วมด้วย

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ชี้มูลคดีสรยุทธ เมื่อวันที่ 20 กันยายน. 2555 ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้อง

สรยุทธกลายเป็นเป้าถล่มของสื่อกลุ่มหนึ่ง และในการชุมนุมชัตดาวน์ ในปี 2556-2557 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นำม็อบบุกช่อง 3 ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 สรยุทธต้องลงมาพบกับม็อบและเป่านกหวีด 1 ครั้ง

29 กุมภาพันธ์ 2559 ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกสรยุทธ 13 ปี 4 เดือน

วันที่ 3 มีนาคม 2559 สรยุทธประกาศยุติบทบาท แต่ยังทำรายการข่าวไลฟ์สตรีมมิ่งทางเฟซบุ๊ก

ก่อนศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อ 29 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา

ตามมาด้วยปฏิกิริยาทั้งชอบและชัง

หลายคนแสดงความเห็นใจนายสรยุทธ ซึ่งถือเป็นสื่อที่ทำหน้าที่จริงจัง และอาจสร้างความไม่พอใจให้กับสื่อบางกลุ่ม

บ้างก็ออกมากล่าวในทำนองอโหสิ แต่ลงท้ายโดนกระแสสังคมยำเละ

นั่นคือ นายภัทรศักดิ์ เทียมประเสริฐ ดีเจวิทยุ เจ้าของสมญานาม “เก่ง เกียร์อาร์” โพสต์เฟซบุ๊กว่า เคยเป็นตกเป็นข่าว และ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” เรียกตนเองว่า “มัน” ทุกคำ

ทีมงานรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล ว่า ย้อนตรวจสอบเทปรายการต่างๆ ที่กล่าวถึงกรณีของ “เก่ง เกียร์อาร์” โดยยืนยันไม่พบว่านายสรยุทธมีการใช้คำว่า “มัน” แทนตัวดีเจเก่ง

ชาวโซเชียลมีเดียที่ชื่นชอบสรยุทธ เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ดีเจเก่งกันอย่างถล่มทลาย

สุดท้ายวันที่ 3 กันยายน เก่ง เกียร์อาร์ ได้ให้สัมภาษณ์ช่องอมรินทร์ทีวีว่า มั่นใจว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง แต่เทปรายการวันนี้ไม่ได้อยู่ที่ตน จึงไม่สามารถบอกอะไรได้

อยากบอกตรงนี้ว่า พี่ยุทธคือไอดอลของผม ผมแค่มาผิดหวัง เสียใจในกรณีของผม ว่าทำไมพี่เค้าฟังความข้างเดียว ทำไมไม่รอผมเอาหลักฐานไปยื่นให้ก่อน หากผมนำเสนอหรือผิดพลาด แล้วทำให้ใครเสียหายก็ตามแต่ ผมก็ขอโทษด้วย

ผมยินดีไปขอโทษพี่สรยุทธถึงเรือนจำ หรือรายการไหนก็ได้ที่จะพาผมไปขอโทษ แต่ผมยืนยันอีกคำหนึ่งว่า ผมบริสุทธิ์ใจ ส่วนที่ปิดเฟซบุ๊กหนี ไม่ได้ปิด แต่โดนแฟนคลับของพี่สรยุทธรีพอร์ต

เป็นข่าวที่สะท้อนถึง “ผล” จากทำหน้าที่ของสื่อ ขึ้นกับว่าได้ทำหน้าที่แบบไหนเอาไว้