หนุ่มเมืองจันท์ : พลัง “ขอบคุณ”

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

วันก่อน “ฮง” โทรศัพท์มาหาผม

“ขอบคุณมากครับพี่ตุ้ม”

เป็นประโยคแรกที่เขาพูดเมื่อผมรับสาย

“ฮง” เป็นน้องที่เรียน ABC ธุรกิจของเขาคือโรงงานผลไม้อบแห้ง

ชีวิตของเขาน่าสนใจมาก

ล้มลุกคลุกคลาน ต่อสู้ชีวิตอย่างน่าชื่นชมมาตั้งแต่เด็ก

ผมเชิญ “ฮง” มาออกรายการฟาสต์ฟู้ดธุรกิจตอนที่เป็นรายการโทรทัศน์ทางช่องเวิร์คพอยท์

น่าจะประมาณ 2 ปีแล้ว

เหตุผลที่ “ฮง” โทร.มาขอบคุณ เพราะเขาเพิ่งได้รับการอนุมัติสินเชื่อเพื่อขยายโรงงานจากแบงก์แห่งหนึ่ง

เป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียว

เหตุผลหนึ่งที่แบงก์อนุมัติ เพราะกรรมการที่พิจารณาสินเชื่อได้ดู “ฮง” ในรายการนี้

เขาชอบมาก

มองเห็นถึงความมุ่งมั่น ขยัน เอาจริงเอาจัง และสู้ชีวิตของ “ฮง”

นอกจากอนุมัติสินเชื่อแล้ว คณะกรรมการยังฝากแสดงความชื่นชมและอวยพรให้โชคดีด้วย

พอรู้ว่ากู้ผ่าน “ฮง” ก็รีบโทร.มาขอบคุณทันที

ผมบอกเขาว่าน่าจะเป็นกระบวนการค้นข้อมูลลูกค้าก่อนอนุมัติสินเชื่อตามปกติ

แต่บังเอิญเปิดเจอเรื่องราวของ “ฮง” ในรายการ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” เท่านั้นเอง

ผมรู้ว่า “ฮง” ดีใจ เพราะช่วงนี้แบงก์ค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องการอนุมัติสินเชื่อมาก

เขาคงไม่นึกว่าการมาออกรายการในวันนั้นจะส่งผลต่อเรื่องสินเชื่อในวันนี้

ผมก็ไม่คิด

ครับ ชีวิตแต่ละช่วงเวลาก็เหมือน “จุด” จุดหนึ่ง

เราไม่มีทางรู้เลยว่า “จุด” ในอดีตจุดไหนจะส่งผลต่อชีวิตในวันนี้และอนาคต

สิ่งที่เราทำได้ก็เพียงทำทุก “จุด” ที่ผ่านมาในชีวิตให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง

ผมน้อมรับคำขอบคุณจาก “ฮง”

ด้วย “ความขอบคุณ”

แฮ่ม…เป็นคนบ้า “คำขอบคุณ” ครับ

เพราะทุกครั้งที่มีคนขอบคุณ แสดงว่าสิ่งที่เราทำไปมีประโยชน์หรือมีคุณค่ากับชีวิตของเขา

ขอบคุณครับ “ฮง”

ผมเริ่มเสพติด “คำขอบคุณ” มาจากงานแฮปปี้บุ๊กเดย์ ตะลอนทัวร์ตอนที่เป็นผู้จัดการสำนักพิมพ์มติชน

สมัยนั้น งานหนังสือแบบสัปดาห์หนังสือแห่งชาติหรือมหกรรมหนังสือแห่งชาติ จะมีแต่ใน กทม.

ถ้าอยากซื้อหนังสือลดราคา อยากเจอนักเขียนก็ต้องมางานนี้

ไม่เคยมีงานขายหนังสือราคาพิเศษ และการเสวนานักเขียนในต่างจังหวัดเลย

สำนักพิมพ์มติชนนั้นได้เปรียบตรงที่เรามีสายส่งหนังสือพิมพ์ของเราเอง

มีหนังสือพิมพ์ในเครือเป็นสื่อประชาสัมพันธ์

และมีสปอนเซอร์ใจดี คือ “ดีแทค” ช่วยสนับสนุน

งานแฮปปี้บุ๊กเดย์ตะลอนทัวร์จึงเป็นงานแรกๆ ที่นำหนังสือราคาพิเศษและนักเขียนไปหาคนอ่านในต่างจังหวัด

ในมุมทางการตลาดของสำนักพิมพ์มติชน งานนี้คือ การระบายสต๊อกหนังสือและสร้างแบรนด์สำนักพิมพ์มติชน

เป็นทั้งงานหาเงินและสร้างภาพลักษณ์

แต่ในฐานะคนต่างจังหวัด ผมรู้ว่านี่คือสิ่งที่คนต่างจังหวัดโหยหา

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ คนมาร่วมงานจำนวนมาก

ซื้อหนังสืออย่างสนุกสนาน

เวทีเสวนาของนักเขียน คนแน่นจนต้องเสริมเก้าอี้

ที่ผมประทับใจที่สุด คือ คนเดินมา “ขอบคุณ” ผมเยอะมาก

บางคนถามถึงยอดขายว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เขากลัวขายไม่ดีแล้วจะไม่มาจัดอีก

คิดดูสิครับ จัดงานขายหนังสือ

แต่ “คนซื้อ” เดินมา “ขอบคุณ”

แบบนี้จะไม่มีความสุขได้อย่างไร

ผมเริ่มเสพติดคำ “ขอบคุณ” มาตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ชอบทำงานอะไรก็อยากได้ความรู้สึกดีๆ แบบนี้

ตอนที่ทำหลักสูตร ABC ก็เช่นกัน

ค่าเรียนก็ไม่ได้ถูก

แต่ทุกรุ่นจะมีคนเดินมาขอบคุณผมกับ “โจ้” ธนา เธียรอัจฉริยะ ที่ร่วมจัดหลักสูตรนี้ขึ้นมา

บางคำขอบคุณก็เหนือความคาดหมายจนขนลุก

ทำอะไรแล้วมีคนขอบคุณ มันดีจริงๆ นะครับ

เพราะทำให้การทำงานมีคุณค่า

และชีวิตมีความหมาย

ตอนที่กลับมาทำ Facebook live “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ก็เช่นกัน

อย่างที่ผมเคยเล่าว่าที่กลับมาก็เพราะ “คำขอบคุณ” ของแฟนรายการที่เดินมาบอกผมในงานหนังสือ

และเรียกร้องให้กลับมาทำอีก

ล่าสุดที่งานอุบลบุ๊กแฟร์ที่อุบลราชธานี น้องคนหนึ่งชื่อ “ต้น” ก็มาขอบคุณ

บอกว่าได้ไอเดียไปปรับใช้ในธุรกิจเยอะมากจากรายการ

ที่สำคัญการกลับมาของ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ครั้งนี้ผมตั้งใจว่านอกจากจะสัมภาษณ์นักธุรกิจแล้ว

ผมอยากสัมภาษณ์คนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดูด้วย

คล้ายๆ กับคอลัมน์นี้

ครั้งก่อนผมสัมภาษณ์ “แซม” ณัฐพล เสมสุวรรณ ที่เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

ทัศนคติของ “แซม” ดีมาก

ล่าสุดเขาหายจากโรคมะเร็งและกลับมาวิ่งมินิมาราธอน

เรื่องของเขาสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนมากมาย

โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง

มีคนส่งข้อความ “ขอบคุณ” เขาเป็นจำนวนมาก

ผมก็ได้เยอะทีเดียว

ตอนนี้มีรายการโทรทัศน์ติดต่อขอทำเรื่องราวชีวิตของเขา

และอื่นๆ อีกมากมาย

หรือตอนที่สัมภาษณ์ “เต๋อ” สาธิต อุพันวัน ของสถาบันกวดวิชาออนดีมานด์

หลังจบรายการมีคนติดต่อขอคุยกับ “เต๋อ” เยอะมากจนเขาตกใจ

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็นำเรื่องของเขาไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก

ผู้ใหญ่จากกระทรวงศึกษาธิการก็ติดต่อขอคุยด้วย

นอกจากนั้น ยังมีคนที่อยากร่วมโครงการจิตอาสาช่วยโรงเรียนด้อยโอกาสของ “เต๋อ” อีกหลายคน

น่าชื่นใจจริงๆ

เป็นการทำรายการที่มีความสุขมาก

จำได้ว่าตอนที่ไปสัมภาษณ์ คุณมานิต อุดมคุณธรรม เจ้าของโครงการสวอนเลค ที่เขาใหญ่

เขาถามผมว่าที่มาทำ live แบบนี้

“คุณได้อะไร”

ผมหัวเราะแล้วบอกว่าต้นทุนรายการไม่ได้มากมายอะไรครับ รับได้สบายมาก

ขอจัดระบบดีๆ สักพักคงมีสปอนเซอร์ที่แจ้งความจำนงไว้แล้วเข้ามา

อธิบายให้ผู้ใหญ่ที่น่ารักอย่างคุณมานิตสบายใจ

แต่ผมไม่ได้บอกคุณมานิตเรื่องหนึ่ง

เป็นเรื่องผลตอบแทนที่มีคุณค่าทางใจยิ่งกว่า “เงิน”

เป็นคำ 2 พยางค์ครับ

…ขอบคุณ