หนุ่มเมืองจันท์ : มหัศจรรย์เลข 3

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

เพิ่งไปอัดรายการ “เจาะใจ” มาครับ

มีการปรับรูปแบบใหม่อีกครั้ง

จากเดิมแต่ละตอนจะมีช่วง “คอลัมนิสต์”

ช่วงแรกตัวหลักอยู่ 4 คน คือ “ป๋าเต็ด” ยุทธนา บุญอ้อม “โหน่ง” วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ “สิงห์” วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล และผม

ตอนหลังเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง คือ “เอ๋” นิ้วกลม

รูปแบบเดิม คือ ให้แต่ละคนคิดเรื่องที่อยากจะเล่ามา แล้วมาคุยกับ “ดู๋” สัญญา คุณากร พิธีกรหลักในรายการ

เวลาที่คุยกันประมาณ 8-10 นาที

ในบรรดารายการโทรทัศน์ที่เคยไปโผล่หน้าจอมา ผมชอบช่วงคอลัมนิสต์ของรายการเจาะใจมากที่สุด

รู้สึกเป็นตัวของตัวเองดีครับ

คิดประเด็น วางโครงเรื่อง และเล่าเรื่อง

วิธีการคล้ายการเขียนคอลัมน์ในหนังสือ

เพียงแต่การนำเสนอต่างกัน

เล่าเรื่องเหมือนเดิม

แต่เปลี่ยนวิธีการเล่า

จาก “ตัวอักษร” มาเป็น “เสียง”

ถ้ามีรูปหรือคลิปประกอบ จะทำให้ภาพบนจอน่าดูยิ่งขึ้น

ช่วงที่ผ่านมา ผมมีความสุขกับการทำหน้าที่คอลัมนิสต์แบบนี้มาก

ยิ่งมี “ดู๋” เป็นพิธีกรด้วย

สบายใจมากเลยครับ

เหมือนกับตอนทำรายการ “คุยเล่นเป็นข่าว” ทางวิทยุร่วมกับ “หนิง” สายสวรรค์ ขยันยิ่ง

ผมพูดคนเดียว แบบไม่มีคนฟังไม่ได้

ขาดความมั่นใจ

แต่ทำรายการร่วมกับ “สายสวรรค์”

ผมรู้สึกปลอดภัยไร้กังวล

ไม่หวั่นแม้วันมามาก

คิดอะไรไม่ออก ก็หยุดพูดเลย

ไม่ต้องกลัว “เดดแอร์” ครับ

เพราะเรามี “สายสวรรค์”

เธอจะขี่ม้าขาวมาช่วยคุณได้แน่นอน

เป็นความรู้สึกเดียวกับตอนมี “ดู๋” เป็นพิธีกรในช่วงคอลัมนิสต์เลยครับ

ไม่ต้องกลัวว่าเกิดหลุด เบลอ ลืมประเด็น

เดี๋ยวพิธีกรมือหนึ่งของเมืองไทยคนนี้จะช่วยคุณได้

ช่วยประคอง

ตอนจบก็สรุปเรื่องได้คมคายมาก

บางทีคมกว่าที่เราคิดมาอีก

ว่าจะแบ่งค่าตัวให้หลายครั้งแล้ว

แต่กลัว “ดู๋” จะหาว่า “ดูถูก”

เลยตัดสินใจไม่แบ่งให้

และแสดงความขอบคุณด้วยการเอาเรื่องของ “ดู๋” หรือเรื่องที่เขาเล่ามาเล่าต่อในคอลัมน์

แสดงความชื่นชมในตัวเขา

ส่วนตัวเราก็เสียสละ

รับ “ค่าเรื่อง” ไป

“เจาะใจ” นั้นถือว่าเป็นรายการทอล์กโชว์ที่ยืนยงคงกระพันมาก

ตอนนี้ 26 ปีแล้วครับ

ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการปรับเปลี่ยนมาหลายครั้ง

ในบรรดารายการโทรทัศน์ทั้งหมด

“ชิงร้อยชิงล้าน” น่าจะอยู่นานที่สุด

27 ปี

รองลงมาก็น่าจะเป็น “เจาะใจ”

การปรับเปลี่ยนจึงเป็นเรื่องธรรมดา

เมื่อครั้งก่อนตอนที่อัดรายการ ทีมงาน “เจาะใจ” บอกว่าผู้ใหญ่อยากให้ปรับช่วงนี้ใหม่

เพราะ “เจาะใจ” เปลี่ยนเวลาออกอากาศ

เป็นวันเสาร์ เวลา 21.40 น.

ทางช่อง 9 MCOT

ดึกขึ้นกว่าเดิม

รายการจึงต้องสนุกขึ้น

รูปแบบที่เปลี่ยนไป คือ จากเดิมที่เล่าเรื่องให้ “ดู๋” ฟังคนเดียว

เขาอยากให้บรรยากาศเหมือนในห้องแต่งตัว

เวลาที่คอลัมนิสต์มาเจอกัน ทุกคนจะรู้จักกันอยู่แล้ว

พอเจอกันก็จะคุยกันสนุกสนาน

ใครเล่าเรื่องไหน อีกคนก็จะเสริม

ยิงมุขกัน

สนุกมาก

ทีมงานอยากได้บรรยากาศแบบนี้ก็เลยเพิ่มคอลัมนิสต์อีกคนมาร่วมวงสนทนาด้วย

บนเวทีจะมี “ดู๋” และคอลัมนิสต์อีก 2 คน

คนหนึ่ง เป็นตัวหลักในการคิดประเด็นและเล่าเรื่อง

อีกคนหนึ่ง จะเป็นคนช่วยเสริม

ส่วน “ดู๋” จะช่วยคุมเกมและร่วมคุยด้วย

ตอนแรกที่ฟังก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร

แต่พอมาอัดรายการเทปแรกกับ “เอ๋” นิ้วกลม

เฮ้ย…สนุกกว่าที่คิด

อารมณ์ในการคุยเปลี่ยนไปเลยครับ

แทนที่จะเป็นการเล่าเรื่อง

กลับกลายเป็นการนั่งเม้าธ์ในกลุ่มเพื่อน

เทปแรก “เอ๋” เป็นตัวหลัก

ผมเป็นคนเสริม และคิดต่อยอดจากเรื่องของ “เอ๋”

เทปที่สอง ผลัดกัน

ผมเป็น “ตัวหลัก”

“เอ๋” เป็นคนเสริม

ตอนคุยกันรู้สึกเลยว่าแป๊บเดียวจบแล้ว

อยากคุยกันต่อ

ไม่รู้ว่าเวลาตัดต่อออกมาเป็นรายการแล้วจะเป็นอย่างไร

แต่ประเมินว่าน่าจะสนุกกว่าเดิม

ต้องลองติดตามครับ

หลังอัดรายการเสร็จ ผมมานึกทบทวนอีกครั้ง

ทำไมคุยกัน 2 คนจึงแตกต่างจาก 3 คน

การหย่อนคนเพิ่มมาอีก 1 คน ทำไมบรรยากาศการสนทนาจึงเปลี่ยนไปมาก

น่าสนใจ

คิดแบบคณิตศาสตร์ การคุยกัน 2 คน จะเกิดการสนทนาแบบ “ทูเวย์”

ไป-กลับ

แค่ 2

แต่พอเพิ่มเป็น 3 คน

1 คุยกับ 2

2 คุยกับ 1

1 คุยกับ 3

3 คุยกับ 1

2 คุยกับ 3

3 คุยกับ 2

รูปแบบการสนทนามีตั้ง 6 แบบ

เพิ่มคนแค่คนเดียวจาก 2 คน หรือ 50%

แต่รูปแบบการสนทนาเพิ่มขึ้นตั้ง 3 เท่า หรือ 300%

เป็นการเพิ่มคนที่มีประสิทธิภาพมาก

ความคิดหลากหลายขึ้น

เกิดไอเดียใหม่ๆ

ยิ่งคิดละเอียดๆ ถึงบรรยากาศการคุยจริงๆ

2 คน 3 คน 4 คน 5 คน…

ผมยิ่งรู้สึกว่า 3 คนดีที่สุด

เป็นจำนวนคนที่เหมาะสมสำหรับการนั่งถกเถียงเพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์

เป็นสมมุติฐานใหม่ที่เพิ่งค้นพบจากรายการ “เจาะใจ” ครับ