ขอแสดงความนับถือ/ฉบับประจำวันที่ 28 ก.ค. – 3 ส.ค. 2560

ขอแสดงความนับถือ/[email protected]

แลหาสิ่งดีๆ มานำเสนอสัปดาห์นี้

“ปิยพงศ์” (เมืองหละปูน) เจ้าเก่า

โบกมือไหว-ไหว

พร้อมสนอง ด้วยเนื้อหาดังนี้

 

เขียนถึงหมอหงวน (สงวน นิตยารัมภ์พงศ์) ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 1925 ปีที่ 37 ประจำวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2560

สรุปท้ายข้อเขียนไปประโยคเดียว

หลายท่านอาจจะงง ทำไมสั้นนัก

คงมีอีกมากมายหลายท่าน ที่ไม่ทราบความเป็นมาของหมอหงวน

วันนี้จึงขอเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจอีกหน่อย

หมอหงวนเป็นหมอที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ ตั้งแต่สำเร็จแพทย์มาและตั้งแต่เริ่มรับราชการ

มีความปรารถนา อยากให้คนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนที่ยากไร้ที่ยากจะเข้าถึงบริการทางแพทย์ เมื่อยามป่วยไข้ มีโอกาสได้รับบริการทางแพทย์โดยทั่วถึง

ด้วยแนวคิด “เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข”

จนเป็นที่มาของนโยบายประกันสุขภาพทั่วหน้า หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “30 บาทรักษาทุกโรค”

แต่หลังจากโครงการสำเร็จ หมอหงวนก็จากไป ทั้งที่อายุไม่มาก

ทำไมจึงจากไปเร็วนักหมอ

…ผมรักหมอ…

 

เขียนถึงหมอน้ำดี สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ แล้ว

อดคิดถึงหมอน้ำดีอีกท่านหนึ่งไม่ได้

คืออาจารย์ รศ.สภา ลิมพาณิชการย์ หรือที่รู้จักกันในนาม “หมอ 5 บาท”

ที่ท่านเพิ่งจากไปเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2559

อาจารย์หมอสภา เลิกจากสอนนักศึกษาแพทย์ ที่โรงเรียนเวชนิทัศน์ หน่วยงานในสถาบันเทคโนโลยีการศึกษา แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลแล้ว

อาจารย์ก็ตรงดิ่งมาเปิดคลินิกส่วนตัว ที่ซอยระนอง 1

ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม

จันทร์ถึงศุกร์ และอาทิตย์ หยุดเฉพาะวันเสาร์วันเดียว

รักษาโรคปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้หวัด ด้วยค่ารักษา 5 ถึง 70 บาท

หากไม่มีก็ไม่คิดเงิน หรือมีเท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น

อาจารย์เปิดคลินิก 5 บาท มาตั้งแต่ปี 2507 ตราบวันสิ้นใจ

ด้วยความเห็นอกเห็นใจผู้ป่วยที่ยากไร้ ที่ยากจะเข้าถึงบริการทางแพทย์ทั่วๆ ไปได้

ท่านให้ความคิดว่า “การทำดี ไม่สามารถจะบอกให้ทำกันได้ แต่เริ่มต้นต้องทำให้ดูเป็นตัวอย่างได้”

แม้ถึงวาระสุดท้าย อาจารย์หมอสภาก็มอบร่างของตนให้เป็นอาจารย์ใหญ่ให้เหล่านักศึกษาได้ศึกษาเล่าเรียนกัน

 

จบจากเรื่อง “หมอหงวน” และ “หมอ 5 บาท” แล้ว

ขอเขียนถึงหมอเจ้าฟ้าอีกพระองค์หนึ่ง

สมเด็จพระบรมราชชนก

ซึ่งได้รับพระฉายาว่า

“พระบิดาแห่งวงการแพทย์ไทย”

คงไม่ต้องอธิบายความกันมากนัก

เพียงอ่านพระราโชวาทที่พระองค์ท่านพระราชทานแก่เหล่านักศึกษาแพทย์ เมื่อครั้งยังทรงพระชนม์ชีพอยู่

ทุกสิ่งทุกอย่างแจ่มแจ้งสมบูรณ์แบบในพระราโชวาทสั้นๆ สองสามประโยคนี้

 

“ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นแพทย์อย่างเดียว แต่ต้องการให้เธอเป็นคนดีด้วย”

“ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นกิจที่สอง

ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง

ลาภ ทรัพย์และเกียรติยศ จะตกแก่ท่าน

ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์”